• Bookmark
  • Share

Akira Back (อาคีรา แบค)

  • Bookmark
  • Share
  • 02-059-5999
  • ชั้น 37 โรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ซอยสุขุมวิท 22
  • คลิกแผนที่
  • พฤ.-อา. 17:30-23:00 น. (หยุดทุกวันจันทร์-พุธ)

  • Akira Back Bangkok
  • Budget
    Budget (ราคาโดยเฉลี่ย/คน)
    ต่ำกว่า 3,000 บาท
    หมายเหตุ : ราคาอาหารมื้อเย็น ที่ไม่รวมเครื่องดื่ม
  • Imports
    Imports (จำนวนวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น)
    ปลา = มาก
    เนื้อวัว = มาก
    ผัก = ปานกลาง
  • Japanese
    Japanese (ปริมาณลูกค้าชาวญี่ปุ่น)

    ปานกลาง
  • Special
    Special
    มีห้องส่วนตัว
    มีสาเกมากกว่า 10 ชนิด

“โมเดิร์นเจแปนนิสติดสำเนียงโคเรียนอเมริกัน” คือคำจำกัดความของอาคีรา แบค

อาหารของ “Akira Back” ดูเผินๆ อาจตัดสินได้เลยว่านี่แหละคือแนวฟิวชั่น (ซึ่งก็ไม่ผิดหากจะเรียกแบบนั้น) แต่เมื่อมองไปถึงความตั้งใจ องค์ประกอบ และที่มาที่ไปก็จะเห็นว่าเชฟอาคีรา แบคสร้างสรรค์เมนูของเขาออกมาในรูปแบบนวัตกรรมที่มิกซ์เข้ากับสากล โดยมีรากฐานมาจากอาหารญี่ปุ่นและประเทศที่ถือว่าเป็นบ้านเกิดของเขาเองอย่างเกาหลีใต้

ซูชิ บาร์ไซส์ใหญ่รองรับลูกค้าได้หลายท่าน

อดีตโปร์สโนว์บอร์ดผู้ได้รับบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ได้ สู่อาชีพเชฟจากพรสวรรค์ส่วนตัวบวกกับการเคี่ยวกรําโดยเซเลบริตี้เชฟโนบุ มัตสุฮิสะ (Nobu Matsuhisa) เกิดเป็นแบรนด์ Akira Back ที่ประสบความสำเร็จ จนปัจจุบันร้านในชื่อเดียวกันกับเขากระจายตัวอยู่ตามประเทศต่างๆ ถึง 13 สาขาทั่วโลก ส่วนบ้านเรานั้นเป็นสาขาที่ 10 โดยตั้งอยู่บนชั้นที่ 37 ของโรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนปาร์ค สำหรับบรรยากาศภายในร้านถูกตกแต่งด้วยโทนขรึมอย่างสีดำ อีกทั้งแบ่งออกเป็นพื้นที่ 4 ส่วนหลักๆ ได้แก่ โซนรับประทานอาหาร, ซูชิ บาร์, โอมากาเสะ บาร์, ห้องส่วนตัวที่รองรับแขกได้ถึง 4 ห้อง และทั้งหมดมาพร้อมวิวเมืองผ่านกระจกบานใหญ่ที่สามารถมองเห็นแบบเต็มตาได้ในทุกๆ โซน

ห้องส่วนตัวล้วนประดับภาพเขียนแนวแอ็บสแตรกต์ฝีมือของคุณแม่เชฟอาคีรา

Tuna Pizza คือเมนูยอดนิยมของร้านที่ไม่ว่าโต๊ะไหนในโลกก็ต้องออเดอร์ ชาร์ลผู้จัดการห้องอาหารชาวฝรั่งเศสบอกกับ KIJI และก็มิสเตอร์ชาร์ลนี่แหละที่กระซิบเราว่าทูน่าพิซซ่าคือจานโปรดของคุณแม่เชฟ ยิ่งพอรู้อย่างนั้นแล้วก็อดที่จะตื่นเต้นกับรสชาติไม่ได้ ซึ่งเพียงกัดลงไปคำแรกก็รู้สึกถูกจริตตั้งแต่เทกซ์เจอร์กรอบๆ ของแป้งครัสต์ด้านล่างที่เชฟทำออกมาได้บางเฉียบ ผสานกับซอสสูตรพิเศษที่มีหนึ่งในอินกรีเดียนท์หลักคือซอสพอนซึ แล้วค่อยตามด้วยซาชิมิทูน่าแล่บาง ดอกเกลือ น้ำมันเห็ดทรัฟเฟิลขาว และแต่งหน้าด้วยใบชิโซะขนาดจิ๋ว ทั้งหมดทั้งมวลนั้นถือว่าเป็นคอมบิเนชั่นที่ได้มาก ไม่ว่าจะเป็นรสสัมผัสที่อร่อยทั้งกลิ่นก็ยังโดดเด่นหอมหวนชวนกิน สมกับที่เป็นจานขายดีของร้านและได้ใจคนกินไปเต็มๆ

Tuna Pizza (430 บาท)

ด้าน Una-Q คือเมนูที่เราบอกได้เลยว่าเชฟสามารถบาลานซ์รสชาติได้อย่างน่าประทับใจ ตั้งแต่ความสดชื่นจากแตงกวาฝานบางทว่าชุ่มฉ่ำแสมหวานด้วยปลาไหลย่างชิ้นพอดีคำ ฟัวกราส์ และซอสบัลซามิกถั่วเหลือง ประกอบกับที่เชฟอาคีราอยากให้ลูกค้าได้สัมผัสอาหารจานนี้อย่างครบถ้วนทั้งรูป รส และกลิ่น จึงได้เพิ่มความหอมอันมีเอกลักษณ์อย่างน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิลขาวพาวเดอร์เข้ามา นับว่าส่วนผสมแต่ละอย่างนั้นเบลนด์ออกมาได้อย่างมีชั้นเชิงจริงๆ

Una-Q (490 บาท)

อยู่กับจานปลากันมา 2 เมนูติดขอเปลี่ยนบรรยากาศมาลองลิ้มชิมรสเมนูไก่ Chidori Chicken ของเชฟบ้าง ซึ่งจานนี้จุดเด่นของเขาอยู่ที่ความนุ่มทั้งฉ่ำหวานของอกไก่ที่เชฟนำไปผ่านการซูวี (Sous Vide) ก่อนจะเสิร์ฟพร้อมพูเรมันฝรั่งเนื้อเบาระดับละลายในปากและเติมหวานด้วยซอสเทอริยากิ เอาเป็นว่าจานนี้ถึงแม้ตัวละครจะน้อยแต่ก็อร่อยจนเกลี้ยงจาน (และไม่เว้นแม้กระทั่งซอส)

Chidori Chicken (490 บาท)

แต่เราก็ยังแบ่งพื้นที่ท้องให้กับ Yellow Tartare ที่พิเศษตรงกรรมวิธีการกินที่เราต้องนำเครื่องเคียงทั้ง 9 ชนิด อย่างครีมวาซาบิ, ใบไชว์ส (Chives), หอมแดง, ไข่ขาว, ไข่แดง, วาซาบิดอง, พริกจาลาปิโน, ใบต้นกระเทียมญี่ปุ่น และกระเทียมซอยทอด มาคลุกเคล้ากับทาทาร์ปลาฮามาจิ คาร์เวีย และซอสถั่วเหลืองวาซาบิให้เข้ากัน จากนั้นค่อยปาดลงบนขนมปังกรอบให้ทั่วก่อนเอาเข้าปาก สิ่งที่ได้กลับมาคือความฟินจนไม่อาจพูดเป็นภาษา รู้เพียงแต่ว่าไปลองเถอะ มันอร่อย!

Yellow Tartare (510 บาท)

Map