อร่อยแบบญี่ปุ่น กับ 5 ร้านซูชิ น่าเช็คอินทั่วกรุง ราคาโดนใจ

เพื่อไม่ให้เป็นการคิดไม่ออกก็เข้าแต่ร้านเดิมๆ เลยขอมาบอกต่อ ร้านซูชิ ที่เราคิดว่าน่าจะโดนใจใครหลายๆ คน ซึ่งแต่ละร้านทั้งคอนเซ็ปต์ ความสดของวัตถุดิบ ตลอดจนการบริการ ล้วนดีงามแตกต่างกัน เรื่องโลเคชั่นก็ไปง่ายใกล้รถไฟฟ้า แถมเงินที่จ่ายเมื่อเทียบกับคุณภาพบอกเลยว่า 5 ร้านนี้คุ้มค่าคุ้มราคาชัวร์!

01 Shichi Japanese Restaurant สาขาสยามสแควร์

ใครที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นน่าจะรู้จักกับร้าน Shichi Japanese Restaurant กันเป็นอย่างดี นอกจากจะให้บริการที่ย่านบางนา ราชพฤกษ์ และอารีย์ ล่าสุดเขาได้เปิดสาขาใหม่ยกเอาความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นแบบพรีเมียมเข้าเมืองมาปักหมุดกันที่สยามสแควร์ซอย 2 โดยครั้งนี้มาพร้อมกับคาแรคเตอร์สดใสสร้างบรรยากาศให้ชาวสยามได้เอ็นจอยกับมื้ออาหารแถมยังสนุกไปกับการถ่ายรูปด้วยทางร้านประโคมจุดให้คุณได้เซลฟี่กันแบบเต็มอิ่ม  

เรื่องความสดใหม่นี่ไม่ต้องห่วงด้วยทางร้านคัดสรรอีกทั้งนำเข้าวัตถุดิบชั้นดีจากตลาดปลาโทโยสุ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ใส่ใจขนาดที่ว่าวัตถุดิบต้องได้มาตรฐานระดับร้านมิชลินเท่านั้น ขณะที่เมนูก็มีให้เลือกมากมายหลายหมวดอาหารญี่ปุ่นโดยทีมเชฟผู้เชี่ยวชาญ หากนับเป็นตัวเลขก็ราวๆ 200 รายการเลยทีเดียว     

แต่ถ้าใครเห็นจำนวนเมนูแล้วรู้สึกลังเลใจเลือกไม่ถูก จานนู้นก็ดีจานนี้ก็ดูน่ากินไปหมด เราขอถือโอกาสนี้แนะนำ 7 เมนูอร่อยแบบ Shichi ที่ไม่ว่าจะสั่งมากินครั้งไหนก็ยังถูกปากถูกใจ เอาเป็นว่าอย่ารอช้าเลยดีกว่า มาเริ่มที่เมนูแรกกันเลย     

Shichi Roll (370 บาท) คือซิกเนเจอร์เมนูขายดียืนหนึ่งของร้านเรียกได้ว่าเสิร์ฟมาแล้วกว่า 1 แสนจานเลยทีเดียว แซลมอนม้วนโรลก่อนที่เชฟจะเอาเบิร์นไฟอีกทั้งราดซอสเมนไทโกะและท็อปด้วยโทบิโกะ เพิ่มสัมผัสกรุบกรอบด้วยแป้งเทมปุระ จบท้ายความอร่อยด้วยซอสหวานสูตรเฉพาะของทางร้าน

อีกเมนูน่ารับประทานในหมวดซูชิก็ต้องเป็น Lucky Seven (380 บาท) เอ็นกาวะเนื้อเด้งหวานผสานเข้ากับโทโร่สับและไข่แดงนกกระทาดิบ ฉ่ำมงนัวลิ้นจนอยากจะขอเบิ้ลอีกสักหลายๆ คำ 

ต่อมาคือ Wagyu Foie Gras Don (1,850 บาท) เมนูนี้เรียกได้ว่าเชฟจับเอาเนื้อและฟัวกราส์มาผนึกกำลังความอร่อย พร้อมด้วยข้าวผัดซอสสูตรพิเศษ อูนิ อีกทั้งหอมเจียว รวมถึงน้ำมันทรัฟเฟิลที่ส่งกลิ่นชวนท้องร้องแบบเกินต้าน       

ส่วนคนไหนชอบงานชาบูชาบูสุกียากี้ต่างๆ เราอยากให้ลองสั่ง Sukiyaki x Shabu Seafood (1,100 บาท) โดยเช็ตนี้ทางร้านได้รวบรวมของทะเลสดๆ อย่างโฮตาเตะ, แซลมอน, ฮามาจิ และเอบิ ให้คุณได้คีบแกว่งในซุปใสและซุปน้ำดำสไตล์สุกียากี้ ยังไม่พอเพราะชุดนี้เขาเคียงมาด้วยผักรวม ไข่สด และคอมพลีตด้วยน้ำจิ้มรสเลิศ 

มาร้านอาหารญี่ปุ่นทั้งทีบนโต๊ะก็ต้องมีเมนูซาชิมิรวมอยู่ด้วย Take Sashimi (1,650 บาท) ตอบโจทย์คนที่อยากกินหลายๆ อย่าง แน่นอนว่ารายการนี้อัดแน่นมาในชามทั้งฮิราเมะ, ชูโทโร่, ฮามาจิ, อากามิ, แซลมอน และปลาซาบะ  

เอาใจคนกินเนื้อกันบ้างด้วยเมนู Australian Wagyu Ishi Yaki (950 บาท) เนื้อวัวออสเตรเลียส่วนสันนอกลายสวยขนาด 100 กรัม จัดเสิร์ฟพร้อมเตาย่าง ผัก และน้ำจิ้ม จะย่างแบบไหนความสุกที่เท่าไหร่ก็จัดได้เลยตามใจชอบ 

สุดท้ายกับ Targar Salad (520 บาท) ที่จัดเต็มทั้งผักและนางเอกอย่างปูนิ่มทอดกรอบ ราดด้วยเดรสซิ่งรสกลมกล่อม ถูกต้องครบถ้วนความเป็นสลัด 

Info 
Tel: 097-824-4665
Address: 236/15-15 สยามสแควร์ซอย 2 ถ.พระรามที่ 1
Opening Hours: 11:00-22:00 น.
Holiday:
Facebook: Shichi Japanese Restaurant – Siam

02 Kinsei Japanese Restaurant

เปิดต้อนรับลูกค้ามาได้สักพักใหญ่ๆ กับ Kinsei Japanese Restaurant ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในอาคารสำนักงาน Metropolis ย่านพร้อมพงษ์ ว่ากันด้วยธีมอาหารของร้านแน่นอนว่าทุกจานเสิร์ฟความเป็นญี่ปุ่นฉบับดั้งเดิมทั้งหน้าตาและรสชาติ ด้านวัตถุดิบนั้นก็มีการควบคุมคุณภาพโดยเชฟชาวญี่ปุ่น ขณะที่ส่วนประกอบอื่นๆ ก็ได้เชฟชาวสิงคโปร์เป็นผู้รับหน้าที่คัดสรรส่วนนี้แทบทั้งหมด

สำหรับเมนูที่เอามาแนะนำกันในครั้งนี้ก็ล้วนขายดีเป็นอันดับต้นๆ เริ่มต้นด้วย Sushi Omakase 5 Pcs. (480 บาท) ซูชิตามใจเชฟจัดเสิร์ฟแบบ 5 คำ ที่ในจานมีทั้งแซลมอน, คัมปาจิ, มากุโร่ส่วนอากามิ, เอบิ และหอยปีกนก 

ลำดับต่อมาคือ Seafood with Hoba Miso (450 บาท) โดยรายการนี้เสิร์ฟมาพร้อมเตาย่างส่งกลิ่นหอมฟุ้งตั้งแต่ยังไม่ถึงโต๊ะ โฮตาเตะและกุ้งปรุงรสกับไซเกียวมิโซะโฮมเมด ให้รสชาติหวานกลมกล่อมลงตัวกินได้แบบเพลินๆ       

ส่วนเซ็ตอาหารกลางวันที่บรรดาแม่บ้านชาวญี่ปุ่นสั่งกันบ่อยๆ ก็คือ Sashimi & Tempura Bento (450 บาท) ที่ทางร้านจัดมาให้แบบครบๆ ทั้งซาชิมิ ของต้ม ของย่าง ตลอดจนเทมปุระที่เป็นของทอด และยังมาพร้อมข้าวญี่ปุ่นทรงเครื่องกับซุปมิโซะร้อนๆ ให้ได้ซดคั่นระหว่างที่รับประทานอาหาร

Info 
Tel: 02-258-3031 
Address: ชั้น G อาคาร Metropolis ระหว่างซอยสุขุมวิท 39 กับ 41 ถนนสุขุมวิท  
Opening Hours: 11:30-22:00 น. (L.O. 21:30 น.)  
Holiday:
Facebook: Kinsei Japanese Restaurant ร้านอาหารญี่ปุ่นคินเซ 

03 Kitaro Sushi สาขานิฮอนมาชิ 

ร้านซูชิที่มีถิ่นกำเนิดในย่านโซเอะมอนโช (Soemoncho) เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 การันตีคุณภาพด้วยจำนวนสาขาที่ย่านต่างๆ ในโอซาก้า ส่วนไทยเอง Kitaro Sushi ก็ได้กระจายความอร่อยให้คออาหารญี่ปุ่นได้แวะมาลิ้มลองกันถึง 4 สาขา หนึ่งในนั้นก็คือโครงการนิฮอนมาชิที่เราได้ไปมา แต่ไม่ว่าจะเป็นสาขาไหนถ้าพูดกันเรื่องคุณภาพอาหาร ราคา รวมถึงการบริการ บอกเลยว่าดีงามเท่ากันหมดทุกแห่งแน่นอน

มาว่ากันด้วยพาร์ทของอาหาร สิ่งที่ Kitaro Sushi ทำให้ลูกค้าติดใจก็คือวัตถุดิบแต่ละชนิดล้วนคัดสรรสดๆ มาจากโอซาก้าและเมืองละแวกใกล้เคียง อย่างเมนู Kanimiso++ (950 บาท) ที่มาพร้อมมันปูหอมๆ อูนิ และไข่แดงออร์แกนิกนำเข้าจากจังหวัดโออิตะ (Oita) เป็นจานออเดิร์ฟที่แนะนำว่าควรต้องลองจริงๆ 

ขณะที่ Kitaro Roll (1,400 บาท) ไซส์เบิ้มอุดมไปด้วยวัตถุดิบสุดพรีเมียมอย่างฮงมากุโร่ (Hon Maguro) สารพัดส่วน อันได้แก่ โอโทโร่, อากามิ, เนื้อส่วนหน้าผาก (Noten), เนื้อส่วนแก้ม (Hoho Niku) และคาง (Kama Toro) แต่ยังไม่พอ! เพราะเชฟยังใส่มันปูและอูนิเข้ามาเพื่อสร้างมิติแห่งรสชาติเข้าไปอีกด้วย 

หรือแม้แต่เมนูซาชิมิทางร้านก็เต็มที่เห็นได้จากเมนู Maguro Zanmai (650 บาท) ที่ครบถ้วนไปด้วยส่วนอร่อยของฮงมากุโร่ ตั้งแต่เนื้อส่วนหน้าผาก, ส่วนท้อง, ส่วนเนื้อแดงไร้มัน, แก้ม และส่วนคาง สำหรับใครต้องการความวาไรตี้ด้านเนื้อสัมผัสและรสชาติของฮงมากุโร่ขอแนะนำสั่งจานนี้เลย คุ้ม!

Info 
Tel: 02-019-2151
Address: 12/73 ชั้น 1 โครงการ Nihonmachi ซอยสุขุมวิท 26 ถนนสุขุมวิท 
Opening Hours: อ.-อา. 17:00-24:00 น.  
Holiday: วันจันทร์
Facebook: 喜多郎寿し 日本街店 Kitaro sushi Nihonmachi

04 Ebisu Sushi

Ebisu Sushi ร้านอาหารญี่ปุ่นที่พาทุกคนนั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปในบรรยากาศยุคโชวะ ตัวร้านแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างมีทั้งโต๊ะเดี่ยวและโต๊ะกึ่งไพรเวท มีความพิเศษที่เก้าอี้สามารถเปิดเก็บของได้ ส่วนชั้นบนเป็นที่นั่งแบบนั่งพื้น ด้วยความที่พื้นที่ด้านบนเปิดโล่งเลยทำให้ไม่อึดอัด และด้วยความใส่ใจในรายละเอียดของการตกแต่งร้าน ทำให้เรารู้สึกว่ากำลังนั่งอยู่ในตรอกเล็กๆ ในประเทศญี่ปุ่นอย่างไรอย่างนั้น 

Jumbo Set (1,113 บาท) คือเมนูแรกที่อยากให้ลองกัน เซ็ตรวมพลปลาไหลย่างและแซลมอนที่ยาวถึง 25 เซนติเมตร เท่านั้นยังไม่พอเพราะยังมีโฮตาเตะเนื้อเด้ง โรลปูอัด และซูชิหน้ากุ้งหวาน เหมาะแก่การมารับประทานกับคนในครอบครัวมากๆ หรือจะมาแย่งกันคีบกับผองเพื่อนก็สนุกเช่นกัน 

ส่วนคนรักเนื้อก็ไม่ต้องเสียใจไปเพราะยังมี ABK48 (480 บาท) มาร่วมขบวนความอร่อยกันในครั้งนี้ด้วย โดยความพิเศษของจานนี้คือการปรุงเนื้อออสเตรเลีย 4 แบบ เริ่มจากชิ้นแรกท็อปด้วยหอมเจียวและซอสหวาน ชิ้นที่ 2 คือโรลไข่ปลาแซลมอนท็อปด้วยไข่นกกระทาดิบเพิ่มความสดชื่นด้วยเลมอนฝาน ส่วนคำที่ 3 ท็อปด้วยมายองเนสและกระเทียม และคำสุดท้ายที่รสชาติเผ็ดร้อนด้วยซอสสไปซี่ ใครเป็นคอเนื้อแล้วพลาดเมนูนี้บอกเลยว่าเสียดายมาก!

ของกินเล่นอีกอย่างที่เราไม่อยากให้พลาดนั่นก็คือ Lava Cheese Gyoza (180 บาท) เกี๊ยวซ่าไส้หมูสับเสิร์ฟพร้อมมอสซาเรลล่าชีสที่เข้ากันดีกับซอสราดสูตรพิเศษของทางร้าน เมนูนี้หากกินตอนเสิร์ฟร้อนๆ ชีสยืดๆ บอกเลยตรงนี้ว่าอร่อยมาก 

Info 
Tel: 087-719-1888
Address: 3 ซอยเอกมัย 10 (เวิ้งโบราณ) ถนนสุขุมวิท 63  
Opening Hours: 12:00-23:00 น.
Holiday:
Facebook: Ebisu Sushi Bangkok

05 Shuriken by Sonie


พร้อมเสิร์ฟรสชาติและบรรยากาศในแบบโฮมมี่ Shuriken by Sonie เน้นเสิร์ฟเมนูซูชิโรลอร่อยๆ ครีเอทโดยเชฟโซนี่ซึ่งมีให้เราได้เลือกสั่งกันเต็มไปหมด นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูหมวดอาหารเรียกน้ำย้อยจานเล็กจานน้อยต่างๆ สลัด ดงบุริ ซาชิมิ ซูชิ มากิ เทมปุระทอดร้อนๆ ไปจนถึงชุดอาหารกลางวันเสิร์ฟพร้อมข้าวญี่ปุ่น ซุปมิโซะ รวมถึงสลัดก็มีมาให้เลือกอร่อยกันอยู่หลายรายการเลยทีเดียว

จานซิกเนเจอร์ขายดีของร้าน Shuriken Pizza (240 บาท) สำหรับจานนี้เชฟได้เอาปูอัดอีกทั้งกุ้งไปคลุกกับแป้งเทมปุระและมายองเนส โปะลงบนข้าวซูชิแล้วนำเข้าตบอบ ก่อนจบที่ท็อปปิ้งอย่างอะโวคาโดและโทบิโกะแบบพูนๆ ครบสูตรความอร่อยที่หาไม่ได้ที่ไหนนอกจากที่นี่

ด้าน Maguro Avocado Salad (320 บาท) ก็เป็นอีกหนึ่งรายการน่าแนะนำ สลัดที่อุดมไปด้วยส่วนประกอบอร่อยๆ ตั้งแต่มากุโร่ส่วนอากามิที่เชฟนำไปเซียร์บนกระทะกับพริกไทยดำ ตามด้วยอะโวคาโด เห็ดหอม และผักสลัด ราดให้ชุ่มแบบไม่หวงด้วยเดรสซิ่งทำเองสไตล์อิตาเลียน มอบรสชาติเปรี้ยวเล็กๆ สร้างความสดชื่นให้แก่ผู้รับประทาน

อีกโรลที่ก็น่ากินไม้แพ้กันสำหรับ Dragon Eye (290 บาท) เพราะเชฟได้เอาสาหร่ายมาม้วนเข้ากับแซลมอน มากุโร่ และฮามาจิ ชุบแป้งให้ทั่ว แล้วเอาลงทอดร้อนๆ ให้กรอบฟู ก่อนจะเสิร์ฟคู่กับซอสสไปซี่มายองเนสและซอสเทอริยากิสูตรของเชฟ ทั้งหมดเป็นคอมบิเนชั่นที่ลงตัวจนอยากเบิ้ลแม้ท้องจะแน่นแล้วก็ตาม

Info 
Tel: 065-050-2456  
Address: 61 ซอยพหลโยธิน 8 ถนนพหลโยธิน 
Opening Hours: อ.-อา. 11:00-21:00 น. 
Holiday: วันจันทร์
Facebook: Shuriken By Sonie : ชูริเคนบายโซนี่