หัวลำโพง-คลองเตย: มุดใต้ดินกินของอร่อย กับ 13 ร้านอาหารญี่ปุ่น EP.2

เดินทางหาของอร่อยกันต่อ รอบนี้ย้ายมาทางฝั่งหัวลำโพง-คลองเตยกันบ้าง กับ 13 ร้านอาหารญี่ปุ่น โดยแต่ละร้านที่เราคัดเลือกมานั้นยังคงคอนเซ็ปต์เน้นเดินทางสะดวก แต่ละร้านตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวสถานีมากนัก จะเดินก็ได้ (บางร้านก็แอบเหนื่อยนะ) จะเรียกพี่วินมอ’ไซค์ดี ส่วนเรื่องความอร่อยนี้ คิจิขอการันตีว่าอร่อยทุกร้าน!

– – – – –

สถานีคลองเตย

1. Nihon Saiseisakaba (นิฮอน ไซเซซากาบะ)

รู้สึกเสียดายที่เพิ่งจะมีโอกาสได้มาร้านนี้ – สารภาพกันตามตรงว่านี้คือแว่บแรกในหัว เมื่อได้เห็นบรรยากาศและการตกแต่งที่ให้อารมณ์เหมือนบ้านไม้โบราณของญี่ปุ่น ดูอบอุ่นแต่ก็แฝงไว้ด้วยความเท่ แถมด้วยเคาน์เตอร์บาร์ที่วางตัวเป็นแนวยาวหักมุมรูปตัวแอลก็ชวนน่านั่งซะเหลือเกิน

ว่ากันว่าหากเทียบด้วยขนาดพื้นที่ นี่คือร้านอาหารที่ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยพื้นที่ค่อนข้างเล็กและมีเฉพาะโต๊ะสำหรับยืนกินเท่านั้น (สาขาในไทยมีเก้าอี้ให้นั่ง) จึงไม่แปลกที่ลูกค้าจะแวะเวียนสับเปลี่ยนมาใช้บริการกันตลอดทั้งวัน

เมนูอาหารของที่นี่เรียกกันว่า Motsuyaki หรือบรรดาเครื่องในหมูปิ้งย่างส่วนต่างๆ ที่เราสามารถเลือกได้ทั้งแบบย่างเกลือและย่างซอสเทอริยากิ

สำหรับเนื้อหมูส่วนต่างๆ ที่ทางร้านนำมาใช้ แน่นอนว่าหลากหลายซะจนเราแอบตื่นเต้นตามไม่ได้ เพราะมาทั้งตับหมู ลำไส้เล็ก-ใหญ่ คอหอย หลอดลม ลิ้นหมู เรียกว่าเรียงกันมาทุกส่วนจริงๆ นอกจากนี้ยังมีไก่และเนื้อวัวให้เลือกสั่งเพิ่มเติมอีกด้วย

อ่านรีวิวร้าน Nihon Saiseisakaba ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/nihon-saiseisakaba/

INFO
Tel: 02-070-7676
Address: โครงการ warehouse 26 ซ.สุขุมวิท 26 ถ.สุขุมวิท
Opening Hours: 17:00-24:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Nihon Saiseisakaba

 

สถานีลุมพินี-สีลม

2. Hokkaido Butadon Tokachi (ฮอกไกโด บุตะดง โทคาจิ)

ร้านข้าวหน้าหมูย่างที่หลายคนต่างพูดกันปากต่อปากว่าอร่อย นั้นเกิดจากความตั้งใจของคุณโอ๋-นัยรัตน์ นันทาภิวัฒน์สกุล ที่ต้องการให้คนไทยได้รับประทานข้าวหน้าหมูย่างแบบฮอกไกโดแท้ๆ ตั้งแต่การคัดสรรซอสโซราจิ ณ โรงงานผลิตที่ต้องนำเข้าจากฮอกไกโด 100%

ข้าวหน้าหมูย่างสไตล์ฮอกไกโดคือเมนูเด่นติดดาวของที่นี่ ซึ่งที่มาของความอร่อยนี้แฝงไปด้วยรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย อย่างหมูเองทางร้านได้กำหนดเลยว่าต่อชิ้นจะต้องหนา 60 มิลลิเมตร อีกทั้งไฟก็ต้องคุมความร้อนไว้ที่ 800 องศา ส่วนถ่านทางร้านเลือกใช้เป็นถ่านไม้โกงกางปลอดสาร

Unaju (390 บาท) ข้าวหน้าปลาไหลเมนูน้องใหม่ของที่ร้าน ก็เป็นอีกหนึ่งกรณีตัวอย่างว่าถ้าทำด้วยความใส่ใจยังไงๆ อาหารก็อร่อย บวกกับซอสสามัญประจำร้านที่เชฟเอามาย่างกับปลาไหลญี่ปุ่น ผลคือเข้ากันดีกับรสหวานเค็มปลายของซอสราวกับนัดกันมาเลยทีเดียว

อ่านรีวิวร้าน Hokkaido Butadon Tokachi ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/hokkaido-butadon-tokachi/

INFO
Tel: 02-634-3935
Address: 8/4-5 ซอยอนุมานราชธน ถ.สุรวงศ์
Opening Hours: 11:00-15:00 น., 17:00-22:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Hokkaido Butadon Tokachi

 

3. Torihada (โทริฮาดะ)

ร้านอาหารจากประเทศญี่ปุ่นที่เอาจริงเอาจังในการสร้างสรรค์เมนูต่างๆ โดยใช้ไก่เป็นวัตถุดิบหลัก โดดเด่นด้วยเมนูยากิโทริหรือปิ้งย่างเสียบไม้ ดงบุริ อาหารจานเดียว ไปจนถึงชุดหม้อไฟ ที่ทางร้านคัดสรรส่วนต่างๆ ทั้งเนื้อ ปีก น่อง เอว ไปจนเครื่องในอย่างตับ หลอดเลือด รังไข่ เรียกได้ว่าเรียงแถวมากันครบทุกส่วนจริงๆ

เริ่มด้วย Yakitori (เริ่มที่ไม้ละ 55 บาท) จานนี้มีทั้งส่วนตับ ปีกไก่ หัวใจ ตูดไก่ และน่องใหญ่ มีให้เลือกทั้งแบบย่างเกลือและย่างซอส และอีกหนึ่งเมนูเด็ดของที่นี้ที่คงจะไม่พูดถึงไม่ได้นั่นคือ Torisashi ซาชิมิไก่สด บอกเลยว่าถ้าไม่มั่นใจในเรื่องคุณภาพของเนื้อไก่ ทางร้านไม่กล้าเสิร์ฟเมนูนี้แน่ๆ จะเรียกว่าเป็นจานพิเศษก็ได้ เพราะเมนูนี้อาจไม่ได้มีทุกวัน โดยทางร้านจะต้องตรวจคุณภาพของเนื้อไก่ที่ถูกส่งมาในทุกๆ เช้า และต้องมั่นใจในคุณภาพจริงๆ ถึงจะเสิร์ฟให้ลูกค้าได้

อ่านรีวิวร้าน Torihada ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/torihada/

INFO
สาขาสุรวงศ์
Tel: 02-634-5860
Address: ซ.นราธิวาสฯ 1 ถ.สุรวงศ์
Opening Hours: จ.-ศ.11:30-13:30 น., 17:30-23:00 น., ส.-อา.16:30-23:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: 鳥波多” スリウォン本店-Torihada-

 

4. Fatboy Sushi (แฟตบอย ซูชิ)

ด้วยคอนเซ็ปต์ของร้านที่เน้นเสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นสไตล์โมเดิร์น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ Fatboy Sushi จะมีวัตถุดิบที่ค่อนข้างวาไรตี้ ไม่ว่าจะเป็นหมูอิเบอริโค (Iberico) จากสเปน, ฟัวกราส์, เห็ดทรัฟเฟิล, เนื้อลูกแกะ ไปจนถึงเนื้อดังรสชาติอร่อยของบ้านเราอย่างวากิวโคราช ในขณะเดียวกันทางร้านก็ให้ความสำคัญกับกรรมวิธีการปรุงอาหารในแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ดังจะเห็นว่าหน้าตาอาหารของที่ร้านซึ่งยังคงรักษากลิ่นอายของความเป็นแดนอาทิตย์อุทัยเอาไว้นั่นเอง

Hamachi Chilli Ponsu (350 บาท) คือซิกเนเจอร์เมนูที่เชฟเสิร์ฟมาให้เราได้ลองชิมกัน ในจานจะเห็นได้ว่าปลาฮามาจินั้นถูกแล่มาแบบไม่หนาไม่บางราดมาพร้อมกับซอสพอนสึ ก่อนจะท็อปด้วยกระเทียมฝนและพริกขี้หนู เมื่อกินเข้าไปจะได้รสชาติทั้งเปรี้ยว เค็ม หวาน แสมเผ็ดเล็กๆ พอเป็นกระษัย ช่วยเรียกน้ำย่อยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

Fat Bastard (380 บาท) ซูชิหน้าล้นที่มีวากิวเป็นเมนอินกรีเดียนท์ เสริมทัพด้วยฟัวกราส์, คาเวียร์, เห็ดทรัฟเฟิล, ไข่นกกระทาออนเซ็น, อิคุระ, ไข่ปลาบิน อีกทั้งซอสปลาไหลที่ทางร้านลงมือเคี่ยวเอง เวลากัดเข้าไปเต็มๆ คำจะได้ทั้งความนุ่มฟินจากวากิวพร้อมๆ กับเทกซ์เจอร์กรุบกรอบเคี้ยวมัน ที่ทั้งหมดนวลละมุนเข้าด้วยกันด้วยไข่นกกระทาออนเซ็น

อ่านรีวิวร้าน Fatboy Sushi ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/fatboy-sushi/

INFO
Tel: 090-419-9969
Address: 35/7 ซ.ยมราช ถ.ศาลาแดง
Opening Hours: 12:00-14:00 น., 17:00-22:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Fatboy Sushi

 

5. Teru Sushi Bistro (เทรุ ซูชิ บิสโทร)

แจกความสุขและความสนุกแบบพรีเมียมที่ Teru Sushi Bistro ร้านซูชิคุณภาพพรีเมียมครบสูตรที่จูงมือเพื่อนมาเฮฮากันได้แบบไม่เคอะเขิน ในซอยศาลาแดง 2 ที่ให้บรรยากาศสบายใจ ในราคาสบายกระเป๋า

เริ่มกันที่ Salmon มหาเทพ (540 บาท) เมนูสุดฮิตในวงเพื่อนที่ทำให้การคีบแซลมอนชิ้นหนาสนุกกว่าที่เคย ทำไมต้องกินแค่ชิ้นสองชิ้นล่ะ ในเมื่อกินกันกันหลายๆ คนสนุกกว่าตั้งเยอะ แค่ความสนุกไม่พอจานนี้ยังยกคุณภาพมาแบบพรีเมียม เพราะแซลมอนทุกชิ้นส่งตรงจากประเทศนอร์เวย์ทุกสัปดาห์ สดใหม่ได้ใจไปเลย

นอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายเมนูอย่าง Hamachi Sashimi (320 บาท) ซาชิมิปลาฮามาจิ เนื้อแน่นๆ สดทุกชิ้น และ Foie Gras Roll (550 บาท) โรลคำโตที่อัดแน่นไปด้วยแซลมอน อะโวคาโด ท็อปด้วยฟัวกราส์และไข่ปลาแซลมอน

อ่านรีวิวร้าน Teru Sushi Bistro ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/teru-sushi-bistro/

INFO
Tel: 094-352-4510
Address: ซ.คอนแวนต์ 2 ถ.สีลม
Opening Hours: 11:00-14:00 น.,15:30-21:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Teru Sushi Bistro

 

6. Hokkaido Ramen Gantetsu (ฮอกไกโด ราเมน กันเททซึ)

แค่เปิดประตูเข้าไปในร้าน กลิ่นหอมของน้ำซุปก็ทักทายเราทันที Hokkaido Ramen Gantetsuร้านราเมนแบบฉบับฮอกไกโดแท้ ที่ซ่อนตัวอยู่ถนนสีลมซอย 6 ยืนยันโดยเจ้าของร้านชาวอาทิตย์อุทัย ทั้งการตกแต่งร้านและเมนูต่างๆ ที่ได้เหมือนพาเราเข้าไปอยู่ในบรรยากาศร้านราเมนใจกลางประเทศญี่ปุ่นได้ไม่ยาก

ราเมนจุ่มโชยุซุป (220 บาท) ราเมนเส้นเหนียวนุ่มคีบจุ่มในน้ำซุปข้นที่ผ่านการเคี่ยวนานถึง 2 วัน เรื่องรสชาติก็เข้มข้นตามแบบฉบับราเมนฮอกไกโดแท้ ๆ ได้ความกลมกล่อมละมุนไปทั่วทั้งปาก คีบจุ่มครั้งต่อไปกินคู่กับหน่อไม้ดอง ไข่ต้ม และหมูสามชั้นหั่นเหลี่ยมนุ่มๆ รับรองว่าเหมือนยกฮอกไกโดมาไว้ที่ร้านเลย

มิโซะเนยข้าวโพด (200 บาท) เข้มข้นด้วยน้ำซุปที่มีความหวานของข้าวโพดแทรกในทุกพื้นที่ กลิ่นเนยหอมแตะจมูกบวกหมูชาชูแผ่นใหญ่ ใครที่ชื่นชอบข้าวโพดล่ะก็ห้ามพลาดเลย

อ่านรีวิวร้าน Hokkaido Ramen Gantetsu ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/hokkaido-ramen-gantetsu/

INFO
Tel: 02-634-4381
Address: 8/4 ซ.นราธิวาสราชนครินทร์ 1 ถ.สีลม 6
Opening Hours: 11:00-22:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Hokkaido Ramen Gantetsu at Silom

 

7. Osaka Ohsho (โอซาก้า โอโช)

แท้จริงแล้วร้านนี้มีต้นกำเนิดอยู่ที่เมืองโอซาก้าในปี ค.ศ. 1969 และกลายเป็นร้านอาหารยอดนิยมสำหรับมื้อค่ำ จนในปัจจุบันมีสาขากว่า 400 สาขาทั่วโลกทั้งในประเทศญี่ปุ่น, ฮ่องกง, เกาหลี, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์ และในประเทศไทยเองก็เช่นกัน จนเคยทำสติถิยอดขายสูงสุดจากร้าน Osaka Ohsho กว่า 400 สาขาทั่วโลก ทั้งในประเทศญี่ปุ่น, ฮ่องกง, เกาหลีใต้, สิงคโปร์, พม่า, เวียดนาม, อินโดนีเซีย, ไต้หวัน, ฟิลิปปินส์ และไทย รวมกันต่อวันมากกว่า 2.5  ล้านชิ้นเลยทีเดียว

เกี๊ยวซ่าของที่นี่ทำกันแบบสดใหม่วันต่อวันไม่มีการแช่แข็ง ทั้งตัวแป้งและตัวไส้ที่ทำจากกะหล่ำปลี, ขิง, กระเทียมและหมู ใช้เวลาในการห่อแป้งกับไส้เพื่อทำเกี๊ยวซ่าแต่ละชิ้นเพียงแค่ 4 วินาทีเท่านั้น เพื่อความสดใหม่และรสชาติที่ดีที่สุด ปรุงให้สุกด้วยเทคนิคการนึ่งและอบไปพร้อมกันในเตาแบบพิเศษที่ทางร้านส่งตรงจากญี่ปุ่น เพื่อทำให้เกี๊ยวสุกและอร่อยได้มาตรฐานเท่ากันในเวลาที่จำกัด จึงมั่นใจได้ว่าเกี๊ยวซ่าทุกชิ้นจะสุกกรอบและมีสีเหลืองทอง ส่วนไส้ก็ยังคงนุ่มชุ่มฉ่ำของส่วนผสมกับเครื่องปรุงทุกอย่างเอาไว้ได้อย่างลงตัว

Gyoza-30 pcs. (400 บาท) เกี๊ยวซ่าต้นตำรับสไตล์ Osaka Ohsho แท้ๆ ทอดอย่างพิถีพิถัน จำนวนถึง 30 ชิ้นที่น่าจะเหมาะสั่งมาแบ่งกันกินหลายคน แต่ถ้าใครเป็นคอเกี๊ยวซ่าตัวจริงแล้วอยากจะกินคนเดียวก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า หรือถ้ากลัวก็ไม่หมดก็ยังสามารถสั่งแบบ 6 ชิ้นในราคา 100 บาท หรือแบบ 12 ชิ้นในราคา 180 บาทมาอร่อยกันแบบพอๆ ดีๆ ก็ได้นะ

อ่านรีวิวร้าน Osaka Ohsho ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/osaka-ohsho/

INFO
Tel: 02-252-3537
Address: ชั้น 6 Central World (ฝั่งอิเซตัน) ถ.ราชดำริ
Opening Hours: 11:30-14:30 น., 18:00-22:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: OsakaohshoThailand

 

8. Momotarou Ramen (โมโมทาโร่ ราเมน)

ตำนานราเมน 23 ปีในซอยธนิยะติดฝั่งถนนสุรวงศ์ ถือเป็นร้านราเมนเจ้าแรกๆ ในย่านนี้เลยก็ว่าได้ ที่ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปสักกี่สิบปี ลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่นก็ยังแวะเวียนไปฝากท้องกันแน่นร้านอยู่เป็นประจำ กับความหลากหลายของราเมนที่มีให้เลือกเกือบ 20 ชนิด ในบรรยากาศเรียบง่ายนั่งกินสบายๆ แถมการบริการของพนักงานร้านนี้เข้าขั้นยอดเยี่ยมและเป็นกันเองอีกด้วย

แนะนำเมนูง่ายๆ แต่ถือเป็นของอร่อยประจำร้านอย่าง Gyoza (100 บาท)เพราะเกี๊ยวซ่าของร้านนี้เค้าจริงจังมาก มีให้เลือกทั้งเกี๊ยวซ่าแบบทอดหรือแบบต้ม เกี๊ยวซ่ากิมจิก็มี ปั้นกันสดๆ แป้งบางไส้แน่นสั่งกันทุกโต๊ะ

Shoyu Ramen (190 บาท)ราเมนรสซีอิ๊วญี่ปุ่นหอมกลมกล่อมเค็มกำลังดี น้ำซุปแม้จะดูใสแต่กลับให้รสเข้มข้นเพราะเคี่ยวนานถึง 6 ชั่วโมง เข้ากันกับเส้นราเมนขนาดกลางที่ลวกมาแบบนุ่มๆ นอกเหนือจากนี้ยังมีอีกหลายเมนูให้เลือกสั่งอย่าง ข้าวผัดหน้าต่างๆ ข้าวแกงกะหรี่ ข้าวห่อไข่ สลัด ของกินเล่น นับรวมๆ แล้วเยอะใช้ได้ รับประกันความอร่อยแบบออริจินัล 23 ปี ไม่เคยเปลี่ยน

อ่านรีวิวร้านMomotarou Ramen ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/momotaro-ramen/

INFO
Tel: 02-235-0108
Address: ซ.ธนิยะ ถ.สุรวงศ์
Opening Hours: 11:00-LATE
Holiday: X
Facebook URL: Momotarou Ramen

 

9. Uma Uma! (อุมะอุมะ)

จากร้านราเมนเล็กๆ ริมถนนย่านฮากาตะ จังหวัดฟุกุโอกะ สู่ร้านราเมนเลื่องชื่อในนาม Uma Uma! ที่ว่ากันว่า นี่คือตำนานน้ำซุปทงคตสึอันเลื่องชื่อ ที่กล่าวขานกันว่าเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยอาคารปูนเปลือย 3 ชั้น ที่ผสมผสานตัวอาคารกับโครงสร้างไม้ไผ่ได้อย่างลงตัวและแปลกตา ภายในร้านตกแต่งเรียบง่ายให้อารมณ์อบอุ่น มีกลิ่นอายของบรรยากาศในแบบเซน

Bushi Tonkotsu Ramen (240 บาท) ราเมนน้ำซุปกระดูกหมูผสมปลาแห้ง ชามนี้เลือกใช้เส้นราเมนขนาดกลาง เพื่อให้เข้ากับน้ำซุปรสเข้มข้นแต่ไม่เลี่ยน ด้วยส่วนผสมของน้ำซุปกระดูกหมูสูตรของร้านและปลาแห้ง จึงได้กลิ่นและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมท็อปปิ้งอย่าง หมูชาชู หน่อไม้ ต้นหอม และถั่วงอก

นอกเหนือจากราเมนแล้ว ยังมีอีกหนึ่งเมนูที่ถือเป็นของดีของดังจากฮากาตะนั่นคือ Torikawa (2 ไม้ 100 บาท) หรือหนังไก่ย่างเสียบไม้ โดยทางร้านใช้หนังไก่คัดเกรดพิเศษ มาทำการขูดชั้นไขมันใต้ผิวหนังไก่ออกจนหมด ก่อนนำไปเสียบไม้และย่างด้วยไฟอ่อนๆ ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที จนกระทั่งน้ำมันไหลออกจนหมด จะได้หนังไก่ที่กรอบนอกนุ่มใน เข้ากับรสชาติของซอสสูตรเฉพาะที่ช่วยเพิ่มความหวานหอมยิ่งขึ้น

อ่านรีวิวร้าน Uma Uma! ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/umauma/

INFO
สาขาสุรวงศ์
Tel: 02-023-7254
Address: 39/25-26 ซ.นราธิวาสฯ 1 (ซ.สีลม 6) ถ.นราธิวาสฯ
Opening Hours: จ.-ศ. 11:30-14:30 น., 17:30-24:00 น. (L.O. 22:30)
ส.-อา. 11:30-15:30 น., 17:00-22:00 น. (L.O. 21:30)
Holiday: X
Facebook URL: 博多うま馬 Uma Uma Thailand

 

สถานีสามย่าน-หัวลำโพง

10. Zero Sushi (เซโระ ซูชิ )

ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดพรีเมียมที่คัดเอาวัตถุดิบชั้นดีมาเสิร์ฟกันแบบจานต่อจาน คับแน่นไปด้วยคุณภาพ ถึงจะเปิดได้ไม่นานมากแต่ทางร้านก็ได้รับความสนใจไม่น้อยทีเดียว ตัวร้านตกแต่งด้วยระแนงไม้ มีความเป็นญี่ปุ่นแบบโมเดิร์น ภายในร้านไม่ใหญ่มาก รองรับลูกค้าได้ทั้งหมดประมาณ 40  ท่าน และสำหรับใครที่อยากนั่งรออาหารไปพร้อมกับการดูขั้นตอนการทำที่พิถีพิถัน เพิ่มความน่ากินของอาหารเข้าไปอีกหน่อย ทางร้านก็ยังมีส่วน เคาน์เตอร์ไว้ให้ลูกค้าได้นั่งชมประมาณ 8 ที่ อีกด้วย

 

เมนูพิเศษของร้านมีให้เลือกมากมาย อย่างเช่นเมนู  The Seven Seas (999 บาท) ที่รวมเหล่าปลาดิบยอดฮิตคุณภาพพรีเมี่ยมส่งตรงจากญี่ปุ่น Bara Chirashi Don (279 บาท) ข้าวหน้าปลาดิบรวมหั่นเต๋า คัดสรรรวมเอาวัตถุดิบทั้งปลาแซลมอน ไข่ปลาแซลมอน ปลากระพง ปลาหมึกยักษ์ ไข่หวาน แตงกว่า มาหั่นเป็นลูกเต๋าขนาดพอดี ท็อปลงบนข้าวสวยญี่ปุ่น พร้อมราดซอสสูตรเด็ดของร้าน โรยงาอีกนิดหน่อย เรียกว่าอร่อยคุ้มสุดๆ กับเมนูนี้

อ่านรีวิวร้าน Zero Sushi ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/zero-sushi/

INFO
Tel: 02 657 6069
Address: ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้า จามจุรีสแควร์ ถ.พญาไท
Opening Hours: 11:00 – 21:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Zero Sushi

 

11. Garaku (กะระคุ)

สุดยอดซุปแกงกะหรี่จากฮอกไกโด โดดเด่นในเรื่องเอกลักษณ์ความเข้มข้นของน้ำซุปแกงกะหรี่ ที่เราต้องย้ำกันอีกครั้งว่านี่คือซุปแกงกะหรี่นะ ไม่ใช่ข้าวแกงกะหรี่ !

Hokkaido Prowns (169 บาท) กุ้งฮอกไกโดเสิร์ฟในแก้วแชมเปญ ชุบแป้งสูตรพิเศษที่ทางร้านคิดเอง ทอดมาแบบกรอบๆ ราดด้วยซอสรสเข้มข้นที่หอมวาซาบิชัดเจน เมนูนี้อร่อยมากเราแนะนำเลย

ต่อด้วยเจ้าของงานกับซุปแกงกะหรี่ที่มีให้เลือกระดับความเผ็ด 1-40 (ไม่รู้จะเยอะไปไหน) เราลองสั่งแค่เลเวล 5 บอกเลยว่าเผ็ดใช้ได้ โดยมีให้เลือกท็อปปิ้งทั้งหมูชาบู หมูสามชั้นตุ๋น เนื้อโคขุน เนื้อลูกแกะ ไก่ ทะเลรวม ไส้กรอกเยอรมัน และกุ้งแม่น้ำ

โดยซุปแกงกะหรี่ของกะระคุจะมีความใสกว่า และมีความหนืดข้นน้อยกว่าแกงกะหรี่ทั่วไป แต่บอกเลยว่ารสชาติและความเข้มข้นยังอยู่ครบถ้วน ซดได้คล่องไม่มีฝืดคอ ด้วยการเคี่ยวน้ำซุปที่ได้จากเครื่องเทศต่างๆ ถึง 21 ชนิด

อ่านรีวิวร้าน Garaku ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/garaku/

INFO
Tel: 083-628-2636
Address: 270 ซ.จุฬา 11 ถ.พระราม 4 (ใกล้ MRT สามย่าน)
Opening Hours: 10.30 – 21.00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Garaku Thailand

 

12. Kouen Sushi Bar (โคเอ็น ซูชิ บาร์)

ร้านอาหารญี่ปุ่นในรูปแบบบุฟเฟ่ต์และอะลาคาร์ท จุดเด่นอยู่ที่ความหลากหลายของเมนูอาหารให้เลือกสั่ง ครบถ้วนทุกความนิยมของอาหารญี่ปุ่น ทั้งซูชิ ซาชิมิ ข้าวหน้าต่างๆ ของกินเล่น รวมไปถึงของหวาน ที่ตั้งใจและพิถีพิถันในการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดีทั้งจากในประเทศ และนำเข้าจากต่างประเทศ และที่สำคัญทุกเมนูปรุงใหม่สดๆ ภายในครัวเปิด ทำกันจานต่อจาน แถมยังมีหลายราคาให้เลือกอิ่มอร่อยตามความคล่องตัวของกระเป๋าสตางค์

สำหรับรายละเอียดบุฟเฟ่ต์ชุดต่างๆ เริ่มต้นที่ชุดโปรโมชั่น Kouen Salmon Luxury Buffet (499++ บาท) ภายในเวลา 90 นาที กับเมนูอาหารกว่า 30 เมนูโดยเฉพาะแซลมอน ที่มีให้เลือกสั่งได้ไม่อั้น และชุด Kouen Japanese Gold Buffet (599++ บาท) ภายในเวลา 120 นาที ที่เพิ่มเมนูพิเศษให้เลือกมากถึง 50 เมนู

นอกเหนือจากชุดโปรโมชั่น ยังมีชุด Kouen Japanese Premium Buffet (679++ บาท) ที่มีให้เลือกถึง 61 เมนู และชุดสเปเชียล Kouen Platinum Buffet (999++ บาท) และ Kouen Ultima Buffet (1,199++ บาท) ที่สามารถสั่งทุกเมนูอาหารภายในร้าน และเมนูพิเศษระดับพรีเมี่ยมอีกกว่า 20 เมนู ด้วยวัตถุดิบอย่าง เนื้อวากิว ปูซูไว และหอยเชลล์ยักษ์ จากประเทศญี่ปุ่น

อ่านรีวิวร้าน Kouen Sushi Bar ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/kouen-sushi-bar/

INFO
สาขา โครงการ I’m Park 
Tel: 082-445-7777
Address: ชั้น G โครงการ I’m Park ซ.จุฬา 9
Opening Hours: 11.00 – 22.30 น.
Holiday: X
Facebook URL: http://Kouen Sushi Bar

 

ร้านอาหารญี่ปุ่นบรรยากาศเรียบง่ายผสมลูกเล่นการตกแต่งร้านโดยใช้โครงสร้างเหล็กสีดำที่ตัดกับงานปูนซีเมนต์เปลือยและผนังอิฐแดงที่ลงตัวในสไตล์ลอฟท์ อินดัสเทรียล ทั้งครัวเปิดขนาดใหญ่ที่คุณจะได้เห็นเชฟปรุงอาหารแต่ละเมนูอย่างขะมักเขม้น

ด้านเมนูอาหาร ทางร้านมีให้บริการอาหารทั้งแบบอาหารจานเดี่ยวและบุฟเฟ่ต์ในราคาเริ่มต้นที่ 499 บาท++ ต่อคน (ราคาสุทธิ 587 บาท) มีเมนูหลากหลายในเลือกกว่า 54 รายการ อาทิ ของกินเล่น ซูชิ ซูชิโรล สลัด แซลมอนซาชิมิ ยากิโทริ กุ้งเทมปุระ ดงบุริ และอุด้ง เป็นต้น ต่อมาเป็นบุฟเฟ่ต์แบบ Deluxe ในราคา 699 บาท++ ต่อคน (ราคาสุทธิ 823 บาท) คุณจะได้เพลิดเพลินกับเมนูมากขึ้นเป็น 66 รายการ มีทั้งเมนูจากเนื้อวัววากิว หอยนางรม ปูทะเล และปลาไหล

ท้ายสุดกับบุฟเฟ่ต์แบบ Gold ในราคา 999 บาท++ ต่อคน (ราคาสุทธิ 1176 บาท) ที่มีอาหารกว่า 78 รายการ รวมไปถึงเมนูจากตับห่าน ครีบปลาตาเดียว กุ้งหวาน และไข่ปลาแซลมอน คุณสามารถเต็มอิ่มกับบุฟเฟต์ทั้ง 3 ได้แบบไม่จำกัดในเวลา 100 นาทีเต็ม

อ่านรีวิวร้าน Shoyu Sushi & Izakaya ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/shoyu-sushi-izakaya/

INFO
Tel: 02-214-4639
Address: ชั้น 2 โครงการ I’m Park ซ.จุฬา 9
Opening Hours: 11:00-22:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: shoyubkk