20 ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดเด็ด ย่านทองหล่อ

สารบัญ

พาตะลุยเดินหาของน่ากินใน “ย่านทองหล่อ” โซนคึกคักใจกลางเมืองที่ถือเป็นอีกย่านหนึ่งที่มีร้านอาหารญี่ปุ่นตั้งเรียงรายหลากหลายบรรยากาศ ทั้งคึกคักสนุกสนานสไตล์อิซากายะ ทั้งได้ลิ้มรสเนื้อย่างสุดอร่อยกับยากินิกุรสเด็ด หรือจะนั่งซู้ดราเมนรอบดึกก็ยังได้!  เรียกได้ว่าเป็นแหล่งที่รวมร้านอาหารญี่ปุ่นเกือบทุกประเภทไว้เลย

วันนี้ KIJI เลยขอแนะนำ 20 ร้านอาหารญี่ป่นย่านทองหล่อ ยกมาให้หลากประเภทหลายสไตล์เลือกได้ตามใจชอบแถมยังเดินทางไปได้สะดวกอีกด้วย หากเย็นนี้ไม่รู้จะฝากท้องที่ไหน เลือกสักร้านแล้วไปกันเลย!

 

1. Aoringo (อาโอรินโกะ)

“อาโอรินโกะ” ร้านข้าวแกงกะหรี่โฮมเมดที่ชื่อเสียงโด่งดังในบ้านเราพอสมควร เรื่องความอร่อยในแบบสไตล์ญี่ปุ่นคงไม่ต้องพูดมาก ด้วยการันตีโดยสมาคมแกงกะหรี่แห่งประเทศญี่ปุ่นว่าร้านนี้แหละอร่อยที่สุดแล้ว เราแนะนำสาขา Nihonmura ที่ซอยทองหล่อ 13 ด้วยการตกแต่งที่ผสมผสานสไตล์ลอฟท์เข้ากับบรรยากาศในแบบคาเฟ่ญี่ปุ่น ดูโปร่งสบายตาด้วยแสงธรรมชาติผ่านกระจกใสที่ติดตั้งอยู่ล้อมร้าน ซอสแกงกะหรี่ของที่นี่เป็นแกงกะหรี่ไก่ที่มีความหอม เข้นข้น แต่ไม่ค่อยเผ็ดมากนัก ด้วยส่วนผสมจากเครื่องเทศชนิดต่างๆ และผักผลไม้ โดยเฉพาะผลไม้หลักที่เป็นที่มาของโลโก้ร้านอย่างแอปเปิ้ลเขียว (Aoringo แปลว่า แอปเปิ้ลเขียว)

Aoringo

Curry rice

Deep fried fillet Katsu stuffed with mozzarella cheese Curry rice (330 บาท)  ข้าวแกงกะหรี่หน้าหมูทอดมอซซารีล่าชีสบวกด้วยออมเล็ตลาวา ปูด้วยไข่ออมเล็ตที่วางแผ่มาเต็มๆ จาน พร้อมด้วยหมูทอดสอดไส้มอซซารีล่าชีสชิ้นใหญ่เกินฝ่ามือ ทั้งซอสแกงกะหรี่ ไข่ออมเล็ต และชีส ช่วยกันเสริมความเนียนนุ่ม หอมอบอวลเต็มๆ ปาก ส่วนใครเบื่อหมูทอด อยากลองท็อปปิ้งอื่นๆ บอกเลยร้านนี้มีให้เลือกกว่า 30 ชนิด แถมแต่ละจานยังเพิ่มข้าวฟรี เสิร์ฟพร้อมสลัดผักและพุดดิ้งกาแฟ รับประกันว่าอิ่มท้องแน่นอน

อ่านรีวิวร้าน Aoringo ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/aoringo-japanese-curry-place/INFO
สาขา Nihonmura
Tel: 02-015-3613
Address: ชั้น 2 โครงการ Nihonmura ซ.ทองหล่อ 13 ถ.สุขุมวิท
Opening Hours: 11:00-14:30 น., 17:00-21:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Aoringo Nihonmura Thonglor

2. Shugetsu Ramen (ชูเก็ทสึ ราเมน)

ไม่ใกล้ ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสถานีทองหล่อ กับราเมนต้นตำรับรางวัล Michelin จากจังหวัดเอฮิเมะ จากร้าน Shugetsu Ramen ราเมนน้องใหม่รสตำรับจากจังหวัดเอฮิเมะ ขอบอกว่าความอร่อยของร้านนี้เขาไม่ธรรมดา เพราะนี่คือเจ้าของรางวัล Hong Kong Michelin Guide ถึง 6 ปีซ้อนเลยทีเดียว! ด้วยบรรยากาศสบายๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่นด้วยโทนสีน้ำตาลอ่อนๆ จากงานไม้ สร้างความสว่างด้วยแสงธรรมชาติผ่านกระจกใสบานใหญ่ (ใครชอบถ่ายรูปก่อนกินแนะนำให้นั่งโต๊ะติดกระจก ถ่ายรูปอาหารออกมาสวยมาก) แถมด้วยความสะอาดสะอ้านของร้านที่เข้าขั้นยอดเยี่ยม เรียกได้ว่าประทับใจตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มกินเลยทีเดียว

Shugetsu Ramen (195 บาท)  ราเมนเส้นสดสูตรต้นตำรับที่ได้ความหอมกลมกล่อมจากน้ำซุปเบสไก่ที่เคี่ยวนานถึง 6 ชั่วโมง และซอสโชยุที่หมักในถังไม้โบราณโดยวิธีการธรรมชาติแบบดั้งเดิมนานถึง 18 เดือน! ไม่ลองไม่ได้แล้ว

อ่านรีวิวร้าน Shugetsu Ramen ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/shugetsu-ramen/INFO
Tel: 080-303-9999
Address: ชั้น 2 The 49 Terrace ซ.สุขุมวิท 49 ถ.สุขุมวิท
Opening Hours: จ.-ศ. 11:00-15:00 น., 17:00-23:00 น.
ส.-อา. 11:30-23:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Shugetsu Ramen – ชูเก็ทสึ ราเมน

3. Honmono SuShi (ฮอนโมโนะ ซูชิ)

ปรุงสดจานต่อจานจากฝีมือของเชฟกระทะเหล็ก สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพลาดร้าน Honmono SuShi ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังที่เปิดให้บริการอีกทั้งสร้างความประทับใจผ่านมื้ออาหารให้กับชาวกรุงฯมานานกว่า 8 ปี โดยมีหัวหอกสำคัญอย่าง เชฟกระทะเหล็กบุญธรรมและเชฟบัณฑูรกูรูอาหารญี่ปุ่นที่มาคอยสร้างสรรค์เมนูรวมถึงควบคุมคุณภาพวัตถุดิบกันแบบจานต่อจาน

Honmono suhi

Honmono Special 8 Kan (2,600 บาท) โดยจานนี้เชฟอยากให้เริ่มจากปลาเนื้อขาวเช่นฮามาจิก่อนแล้วคำท้ายๆ ค่อยเป็นปลาที่มีไขมันแทรกอย่างโอโทโร่หรือแซลมอน และแม้ว่า 8 คำจะทำหน้าที่ส่งความสุขให้กับผู้กินได้อย่างไม่มีบกพร่อง แต่คำที่ว้าวจนอยากให้ทุกคนได้ไปสัมผัสประสบการณ์นี้เหมือนกับคิจิก็คือซูชิหน้าปลามาไดที่ท็อปมาด้วยเอ็นกาวะเบิร์นไฟ มะนาวฝานบาง เกลือ และยูซุ เอาเป็นว่าใครที่ไปลองจะต้องรู้สึกว้าวเหมือนกันกับเรา

Foie Gras Avocado Rolls (550 บาท) ด้วยรสชาติมันๆ ของอะโวคาโดที่ลงตัวกับฟัวกราส์และซอสหวาน บวกกับเทกซ์เจอร์สนุกๆ ระหว่างเคี้ยวที่เชฟเสริมเข้ามาอย่างโทบิโกะและอิคุระ เอาเป็นว่าจานนี้กินง่ายเคี้ยวเพลินแน่นอน

อ่านรีวิวร้าน Honmono SuShi ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/honmono-sushi/INFO
สาขา ทองหล่อ
Tel: 02-185-1447
Address: 19 ซ.ทองหล่อ 23 ถ.สุขุมวิท
Opening Hours: 11:30-14:00 น., 17:30-22:30 น.
Holiday: X
Facebook URL: Honmono SuShi

4. Menya Yamato (เมนยะ ยามาโตะ)

ราเมนแห้งสไตล์นาโกย่าเจ้าเดียวในไทย คนไหนที่ตั้งใจไว้ว่าชีวิตนี้ต้องตระเวนชิมราเมนให้ครบตระกูล อยากจะบอกว่าข้างๆ กันกับสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อมี Menya Yamato ร้านราเมนที่เน้นเสิร์ฟมาเซโซบะสูตรนาโกย่ารสชาติจัดจ้าน ตั้งประจำการให้ชาวราเมนเลิฟเวอร์ได้แวะมาเก็บแต้มกันแบบสะดวกๆ ด้วยความที่เป็นร้านเฉพาะทางเรื่องมาเซโซบะ ทั้งมีสาขาแม่ที่นาโกย่าและนานาสาขาที่กระจายความอร่อยอยู่ ณ ต่างแดน (สำหรับบ้านเราเองก็เปิดให้บริการมากว่า 2 ขวบปี) มาเซโซบะของที่นี่จึงเป็นเมนูที่เรียกได้ว่าฮอตฮิตติดลมบน นิยมจนเป็นมาเซโซบะอันดับ 1 ในนาโกย่า และถูกปากชนิดที่ว่าใครมาก็ต้องสั่ง

ราเมน

Menya Yamato 

Mazesoba “Yamato Style” (Mini 160 บาท / Medium 200 บาท / Large 275 บาท) โดยทางร้านเสิร์ฟมาในแบบแห้งที่มองแว่บแรกก็รู้ว่าเมนูนี้ต้องมีซี๊ดปากชัวร์ๆ ซึ่งในชามประกอบไปด้วยเครื่องเคราที่ก็มีทั้งราเมนเส้นอวบ, หมูสับผัดพริกญี่ปุ่นรสชาติเผ็ดร้อน, กุยช่ายซอย, ต้นหอมญี่ปุ่น, กระเทียมสับ, ผงปลาแห้ง, สาหร่าย และไข่แดง ซึ่งก่อนจะคีบแล้วม้วนเข้าปากแนะนำให้คนส่วนผสมทุกอย่างก่อนมันถึงจะเป๊ะ หรือถ้ายังไม่ถึงใจพอก็สามารถ Add-on น้ำส้มสายชู (Konbusu) สูตรของทางร้านเพิ่มความจัดจ้านได้เลย

ราเมน

Yamato Tsukemen (240 บาท) ทางร้านจัดมาแบบข้นเต็มเครื่องทว่ารสชาติถือว่ากลมกล่อม ด้านเส้นก็นุ่มหนึบจิกซอสได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมท็อปปิ้งที่ทางร้านตั้งใจให้กินคู่กันอย่างหมูชาชู, หน่อไม้ญี่ปุ่นปรุงรส, ไข่ต้มยางมะตูมหมักซอส, ต้นหอมญี่ปุ่น สาหร่าย และปิดท้ายที่หมูสับปรุงรสเผ็ด ตัวชูโรงของ Menya Yamato

อ่านรีวิวร้าน Menya Yamato ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/menya-yamato/INFO
Tel: 02-083-8526
Address: 1033 ถ.สุขุมวิท (ข้างๆ สถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ)
Opening Hours: 11:30-15:00 น., 17:30-23:30 น.
Holiday: X
Facebook URL:  Menya Yamato Bkk

4. Sumi Tei Yakiniku (สุมิ เต ยากินิกุ)

Sumi Tei Yakiniku ร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น เมนูส่วนใหญ่ของร้านใช้เนื้อวากิวเกรด A5 แน่นด้วยคุณภาพของเนื้อวากิวญี่ปุ่นขนานแท้ ระดับพรีเมียม สายพันธุ์ญี่ปุ่นขนดำ (Kuroge) จากเมืองคาโกชิม่า ทางร้านดูแลคุณภาพของเนื้อตั้งแต่ต้นสายยันปลายสาย รวมถึงตระเวนหาเนื้อวัวสายพันธุ์ไทยที่มีเกรดที่ดีที่สุดในประเทศด้วยตัวเองอีกด้วย ด้วยความพิถีพิถันสุดๆ ในการคัดสรรเนื้อโดยเชฟคำปุ่น หนึ่งในหุ้นส่วนของร้านที่มีประสบการณ์เรื่องเนื้อมากกว่า 10 ปี และคิดเมนูอาหารใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะมีเมนูเนื้อแบบปิ้งย่างที่ให้ลิ้มลองกันแล้ว ที่นี่ยังมีเมนูข้าวที่เชฟคำปุ่นปรับสูตรจนได้รสที่อร่อย กลมกล่อมถูกปากคนไทย

Tokusen Bara (1,580 บาท) เนื้อวากิว A5 ส่วนท้องด้านใน เสิร์ฟมาพร้อมกับใบรับรองคุณภาพเนื้อ ที่บอกเราตั้งแต่สถานที่เลี้ยงวัว ชื่อคนเลี้ยง และบริษัทจัดส่ง มั่นใจได้เลยว่าจานนี้มาตรฐานเกรดพรีเมียมจริงๆ ไม่ต้องผ่านการปรุงมากมายก็อร่อย แต่หากอยากลองคู่กับน้ำจิ้ม ทางร้านก็มีสูตรพิเศษ 2 สูตร ให้เลือกทั้งสูตรหอมเนยและสูตรเข้มข้น แต่บอกเลยไม่ว่าสูตรไหนก็อร่อย

Imperial Wagyu Hayashi Omu Rice (380 บาท)  ข้าวผัดซอสฮายาชิกับเนื้อวากิว A5  และโปะไข่ข้นปิดท้าย ทางร้านใช้ซอสฮายาชิสูตรกลมกล่อมที่คิดค้นขึ้นมาใหม่ นำมาผัดกับข้าวสวยญี่ปุ่นและเนื้อวากิวชิ้นหนา ก่อนราดด้วยซอสฮายาชิสูตรลับอีกครั้ง จานนี้เด็ดที่เนื้อ ดีที่ซอสจริงๆ

Imperial Wagyu Hayashi Kare Rice (340 บาท) ข้าวแกงกระหรี่เนื้อวากิว A5 ความพิเศษอยู่ที่การเคี่ยวซุปเนื้อวากิวจนนุ่มและนำมาผสมกับซอสแกงกะหรี่สูตรเฉพาะของทางร้าน ทั้งผักชนิดต่างๆ และเนื้อวากิว A5 ที่เปื่อยนุ่มละลายในปาก ทำให้ได้รับรสสัมผัสของเนื้อที่ชัดเจนและเข้มข้น

อ่านรีวิวร้าน Sumi Tei Yakiniku  ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/sumi-tei-yakiniku/INFO
Tel: 091-770-7747
Address: 323/3 โครงการ J-Avenue ซ.ทองหล่อ 13 ถ.สุขุมวิท
Opening Hours: จ.-ศ. 17:00-22.00 น.,
ส.-อา. 11:30-14:00 น., 17:00-22:00 น.
Holiday: X
Facebook URL:  Sumi Tei Yakiniku

 

6. Thonglor Yokocho (ทองหล่อ โยโคโจ)

ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะย่านทองหล่อ ที่ตกแต่งได้มันส์และดูสนุกสนานเอามากๆ โดยดัดแปลงพื้นที่ให้กลายเป็นถนนเส้นเล็กๆ บรรยากาศเหมือนที่ญี่ปุ่น (Yokocho หมายถึง ถนนเส้นเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ผับบาร์) ตามทางเดินเรียงรายไปด้วยซุ้มอาหารญี่ปุ่นหลากหลาย ตั้งแต่โอโคโนมิยากิ ซาชิมิ ซูชิ ไปจนเมนูกับแกล้มต่างๆ เก็บรายละเอียดด้วยการตกแต่งแบบพร็อพแน่นๆ จำลองบรรยากาศถนนญี่ปุ่นยุค 80′ ให้อารมณ์ดูสนุกสนาน เหมือนอยู่ในงานเทศกาลในญี่ปุ่น

Hokkaido Soup Curry (280 บาท) “ซุปคะเร” เมนูขึ้นชื่อจากฮอกไกโด แกงกะหรี่น้ำใสพร้อมสะโพกไก่ชิ้นโต หอมเครื่องเทศ การันตีหาทานได้ที่นี่ ที่เดียว

Okonomiyaki โอโคโนมิยากิ พิซซ่าญี่ปุ่นมีให้เลือกทั้งแบบฉบับโอซาก้าและฮิโรชิม่า เสิร์ฟร้อนๆ แบบจานต่อจาน

อ่านรีวิวร้าน Thonglor Yokocho  ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/thonglor-yokocho/INFO
Tel: 02-714-7918
Address: 540/8 ซอยทองหล่อ 18 ถนนสุขุมวิท (ชั้นบน Max Value)
Opening Hours: 17:00-24:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Thonglor Yokocho トンロー横丁

 

7. KAZE Fresh (คาเสะ เฟรช)

KAZE Fresh ร้านอาหารญี่ปุ่นเล็กๆ ใจกลางย่านทองหล่อ ที่แน่นไปด้วยความอร่อยและคุณภาพของวัตถุดิบชั้นดี พร้อมเสิร์ฟให้กับผู้รักและหลงไหลในอาหารญี่ปุ่นเป็นชีวิตจริงใจ ภายในร้านได้ตกแต่งด้วยกระจกใสทำให้มีความโปร่งโล่ง ถึงแม้จะมีพื้นที่ขนาดเล็ก ทั้งยังตกแต่งด้วยโทนไม้สีอุ่นตัดกับความเงาของหินอ่อนสีดำและสีขาว ตัวร้านแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างมีบาร์ที่นั่งทอดตัวยาวขนาบห้องแถว มองเห็นเชฟโชว์ฝีมือทำอาหารได้อย่างชัดเจน ชั้นบนเป็นโต๊ะ เก้าอี้ไม้ ตกแต่งลวดลายบนผนังด้วยปลาคาร์ฟ หลากสีสัน

Sushi 9 Kinds (2,800 บาท) ซูชิชิ้นโต 9 คำ คัดคุณภาพมาเน้นๆ ทั้ง อานาโงะ ชูโทโร่ โอโทโร่ อิคุระ เนื้อโอมิ เอ็นกาวะ ฟัวกราส์ อูนิ และโบตันเอบิ

Salmon Set (420 บาท) ที่เอาใจคนรักแซลมอนเต็มๆ เพราะมีทั้งแซลมอนซาชิมิ แซลมอนทาทาร์ แซลมอนซูชิ แซลมอนซูชิที่เบิร์นไฟผิวด้านนอกให้สีสวย และปิดท้ายกับแซลมอนโรลที่สอดไส้ครีมชีสและฟัวกราส์

Ebi & Kani miso Don  (680 บาท) มันปูรสหวานที่ล้อมด้วยกุ้งหวานเนื้อเด้ง ก่อนโรยด้วยไข่ปลาและท็อปด้วยอิคุระ ทุกอย่างในชามนี้กินพร้อมกันแล้วรสชาติกลมกล่อม

อ่านรีวิวร้าน  KAZE Fresh  ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/kaze-fresh/INFO
Tel: 02-392-3544
Address: 303 ซ.สุขุมวิท 55 ถ.สุขุมวิท
Opening Hours: จ.-ศ. 12:00-15:00 น., 17:30-23:00 น., ส.-อา. 12:00-23:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: KAZE Fresh Japanese Restaurant

 

8. Joshoken (โจโชเคน)

ร้านราเมนจากจังหวัดชิบะที่ไปสร้างชื่อเสียงโด่งดังที่ประเทศสิงคโปร์ จนขยายสาขาในอีกหลายประเทศ สำหรับสาขาในไทยเพิ่งจะโยกย้ายจากในซอยสุขุมวิท 49 มาอยู่ที่ตั้งแห่งใหม่ในโครงการ Nihonmura Mall ซึ่งใช้พื้นที่เดียวกันกับร้านอาหารญี่ปุ่น Uomasa (อีกหนึ่งร้านอาหารญี่ปุ่นเก่าแก่ในประเทศไทย) แน่นอนว่านั่นจึงทำให้ร้าน Joshoken แห่งนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่ราเมนเท่านั้น หากแต่เรียกว่าครบเครื่องเรื่องอาหารญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้

RamenShio Ramen (180 บาท) ราเมนรสเกลือที่ให้ความเค็มนิดๆ กำลังดี น้ำซุปแม้จะดูใสแต่กลับให้รสเข้มข้นพร้อมกลิ่นหอมเอามากๆ ทางร้านเลือกใช้เส้นราเมนขนาดเล็กนำเข้าจากญี่ปุ่น ลวกมาแบบนุ่มไม่แข็งมากนัก โปะด้วยหมูชาชูติดมัน ไข่ต้มเต็มฟอง เห็ดหูหนู และมะนาวฝานบางๆ พร้อมน้ำมันพริกเผาเพื่อเพิ่มรสชาติ

Tanmen (220 บาท) ราเมนผักที่ดูแว๊บแรกคล้ายๆ ราดหน้าอยู่เหมือนกัน หอมกลมกล่อมด้วยน้ำซุปโชยุ เพิ่มเติมด้วยกลิ่นและรสชาติจากผักต่างๆ อย่าง ถั่วงอก กะหล่ำปลี แครอท เห็ดหูหนูซอย และปิดท้ายด้วยหมูสามชั้นอีกหนึ่งชิ้น ตัวน้ำซุปลักษณะหนืดๆ คล้ายราดหน้า แต่รสชาติแตกต่างกันแน่นอน

อ่านรีวิวร้าน  Joshoken  ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/joshoken/INFO
Tel: 02-185-3127
Address: ชั้น G โครงการ Nihonmura Mall ซ.ทองหล่อ 13
Opening Hours: จ.-พฤ.11:30-14:30 น., 18:00-22:30 น., ศ.11:30-14:30 น., 18:00-23:00 น.
ส.-อา.11:00-23:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Joshoken Thailand

 

9. Maki on Fifth (มากิ ออน ฟิฟธ์)

Maki of fifth ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ดั้งเดิมและแบบฟิวชั่นที่พร้อมเสิร์ฟอาหารในบรรยากาศหรูหรา แต่ทว่าผ่อนคลายด้วยความโปร่งโล่งของเพดานสูง สร้างบรรยากาศโรแมนติกด้วยดวงไฟระย้าทั่วทั้งร้านตัดกับผนังสีเข้ม พร้อมเคล้าคลอบรรยากาศด้วยเพลงบรรเลงตลอดทั้งคืน ตัวร้านมีพื้นที่ให้เลือกนั่งหลากหลายแบบ ทั้งโซนโต๊ะใหญ่สำหรับหมู่คณะ โซนมุมห้องแบบไม่มีใครรบกวนสำหรับคู่รักที่ต้องการความสงบ หรือโซนด้านในสุดที่แยกเป็นเรือนกระจกตกแต่งด้วยไฟสีส้มนวลตา โดยมีผนังและเพดานเป็นกระจกใสทำให้มองเห็นท้องฟ้ายามค่ำคืนได้อย่างชัดเจน เหมาะสำหรับจัดเลี้ยงสังสรรค์ในหมู่เพื่อนหรือโอกาสพิเศษ

Maki on Fifth

To Die For (490 บาท) มากิสอดไส้โทโร่แซลมอนถูกจัดมาสวยงามในรูปแบบของดอกไม้บานตกแต่งด้วยไข่ปลาหลากสี ท็อปด้วยต้นหอมญี่ปุ่นซอยและไข่นกกระทาเพิ่มสีสันและรสชาติให้จานนี้อร่อยขึ้นเป็นทวีคูณ

Spicy Salmon Tempura (330 บาท) เต็มอิ่มกับแซลมอนเทมปุระสัมผัสกรุบกรอบสอดไส้ครีมชีสและซอสสไปซี่มาโย ก่อนท็อปด้วยวาซาบิมาโยและซอสพริกเพิ่มความจัดจ้าน

อ่านรีวิวร้าน  Maki on Fifth  ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/maki-of-fifth/INFO
Tel: 098-619-5252
Address: โครงการ No.88 ซ.ทองหล่อ 5 ถ.สุขุมวิท
Opening Hours: 17:00-24:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Maki on Fifth

 

10. Shin Yakitori (ชิน ยากิโทริ)

Shin Yakitori ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์กิน-ดื่มริมถนนทองหล่อ ที่ดัดแปลงอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นให้เป็นอิซากายะเท่ๆ ด้วยโทนสีดำ การตกแต่งอย่างผนังอิฐบล็อก งานปูนเปลือย ชุดโครงเหล็กต่างๆ และรถตุ๊กๆ ! พร้อมด้วยอาหารญี่ปุ่นเมนูยอดนิยมครบทุกหมวดหมู่ ทั้งปลาดิบคุณภาพดี เมนูจานเดียวทั้งข้าวและเส้น ของกินเล่นสไตล์กับแกล้ม ชุดปิ้งย่างต่างๆ และแน่นอนที่ขาดไม่ได้คือยากิโทริและอาหารเสียบไม้ประเภทต่างๆ

Yakitori

เมนูยากิโทริ ทางร้านเลือกใช้เนื้อไก่คุณภาพดีจากฟาร์ม ส่งตรงถึงร้านทุกวันก่อนเปิดร้านเพื่อคงความสดให้มากที่สุด ก่อนนำมาทำความสะอาดและเสียบไม้เตรียมนำขึ้นเตาเมื่อมีลูกค้าสั่งโดยไม่มีการย่างทิ้งเอาไว้เด็ดขาด มีให้เลือกทั้งแบบย่างเกลือและย่างซอสเทริยากิตามความชอบของแต่ละคน อย่าง Negima หรือสะโพกไก่เสียบสลับกับต้นหอมญี่ปุ่น Momo Wasabi สะโพกไก่นุ่มๆ แต้มวาซาบิ Nankotsu กระดูกอ่อนที่ให้สัมผัสกรึบๆ เคี้ยวเพลินเลยทีเดียว หรือใครที่ชอบเครื่องในก็มีให้เลือกเยอะใช้ได้ทั้ง ตับไก่ หัวใจ และกึ๋น

อ่านรีวิวร้าน  Shin Yakitor  ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/shin-yakitori/INFO
Tel: 02-039-7078
Address: 205/16-17 ซ.ทองหล่อ 9 ถ.สุขุมวิท
Opening Hours: 17:30-LATE
Holiday: X
Facebook URL: Shin Yakitori

 

11. Cocoro (โคโคโร)

ร้านอิซากายะเล็กๆ ในซอยทองหล่อ 13 ตรงข้ามโครงการ Nihonmura ตัวร้านแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นส่วนของเคาน์เตอร์ครัวและเตาเทปปันยากิ แบ่งเป็นที่นั่งได้อีกนิดหน่อย หากมากันหลายคนแนะนำให้ขึ้นลิฟท์มาชั้น 2 ที่แบ่งพื้นที่เป็นห้องส่วนตัวขนาดต่างๆ และสามารถปรับให้เป็นห้องสำหรับปาร์ตี้สังสรรค์ (ที่ทางร้านบอกว่ามาจัดกันบ่อยมาก) รองรับได้เกือบ 30 คน ในบรรยากาศและการตกแต่งทั้งหมด ที่ให้อารมณ์ความรู้สึกติดกลิ่นโมเดิร์นร่วมสมัยนิดๆ ด้านเมนูอาหารของร้าน แม้จะเป็นอิซากายะแต่ก็มีเมนูให้เลือกสั่งกันได้หลากหลาย ทั้งเมนูจานด่วนสไตล์กับแกล้ม ซูชิ ชุดคัตสึต่างๆ ดงบุริ รวมไปถึงสลัดหรือของหวาน ที่แม้จะเป็นอาหารญี่ปุ่นออริจินัลแบบต้นตำรับ แต่ดูน่าสนใจด้วยการนำเสนอในรูปแบบฟิวชั่น มีกลิ่นอายของอาหารตะวันตกผสมอยู่นิดหน่อย

Taiwan Mazesoba (170/200 บาท) ผสมผสานความอร่อยที่ลงตัวระหว่างเนื้อบดรสเผ็ดกับเส้นราเมนขนาดใหญ่ โปะด้วยเครื่องเคียงที่วางเรียงกันอย่างสวยงาม เอาเข้าจริงก่อนหน้าที่เราจะมา คนญี่ปุ่นใกล้ตัวแอบกระซิบบอกมาว่า Mazesoba หรือราเมนแบบแห้งของที่นี่อร่อยมาก เห็นทีว่าจะเป็นเรื่องจริง

Nikuzushi (550 บาท) ซูชิเนื้อวากิว A5 จากเมืองเกียวโต เสิร์ฟแบบ 5 รส ทั้ง ต้นตำรับ วาซาบิสับ หอยเม่น ซอสเทริยากิ และรสมะนาวผสมเกลือ นุ่มสุดๆ ไร้คำบรรยาย

อ่านรีวิวร้าน  Cocoro  ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/cocoro/INFO
Tel: 02-038-7513
Address: 44/11 ซ.ทองหล่อ 13 ถ.สุขุมวิท (ตรงข้ามโครงการ Nihonmura)
Opening Hours: อ.-ศ. 17:00-LATE., ส.-อา. 12:00-22:00 น. (หยุดวันจันทร์)
Holiday: X
Facebook URL: Cocoro japanese cuisine

 

12. Fukuda Seimen (ฟุคุดะ เซเมน)

สุดยอดร้านราเมนโฮมเมดที่ทำเราประทับใจและแอบเซอร์ไพรส์เล็กๆ ถึงความตั้งใจในการทำราเมน ซึ่งความเซอร์ไพรส์ของร้านนี้อาจไม่ได้อยู่ที่ราเมนชามโต ใส่ท็อปปิ้งมาเยอะๆ หรือว่าน้ำซุปสีสันสวยสดงดงาม ว่ากันตามตรงนี่เป็นเพียงร้านราเมนเล็กๆ ที่มีเจ้าของเป็นชาวญี่ปุ่น ไร้ความฉูดฉาด หรูหรา แต่ดูเรียบง่ายเป็นกันเองจนน่าประทับใจ กับราเมนโฮมเมด 100 % ที่ทำกันเองภายในร้านทุกขั้นตอน ว่ากันตั้งแต่การผลิตเส้นราเมน ที่ทางร้านนำเข้าเครื่องทำเส้นราเมนจากญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ทำกันบริเวณหน้าร้านให้ลูกค้าเห็นกันชัดๆ กันไปเลย ด้านน้ำซุปต่างๆ ก็พิถีพิถัน ให้รสเข้มข้นกลมกล่อมด้วยการเคี่ยวนานถึง 10 ชั่วโมง

Mr.Fukuda Mr.Fukuda เจ้าของร้านผู้ลงมือทำราเมนเองทุกขั้นตอน

Ajitama Nikumashi Fukuda Tonkatsu (280 บาท) ทงคตสึราเมนที่ได้จากการเคี่ยวกระดูกหมูส่วนสันหลัง น้ำซุปที่ได้จึงเข้มข้นและมีความหนืดชัดเจนเข้ากันกับเส้นราเมนขนาดใหญ่ และที่เซอร์ไพรส์ไปกว่านั้นคือหมูชาชู เพราะแค่เราดูภายนอกก็แตกต่างจากร้านอื่นๆ แล้ว ชาชูของที่นี่จะนำเนื้อหมูไปเคี่ยวด้วยอุณหภูมิต่ำ ใช้วิธีการอบแทนการย่างแบบปกติ จึงทำให้ได้หมูชาชูนุ่มๆ สีสวย ไม่แห้งจนเกินไป

Fukuda SeimenAjitama Nikumashi Tokusen Miso (300 บาท) มิโซะราเมนสูตรโฮมเมดที่ร้านใช้ซอสมิโซะถึง 4 ชนิด ทั้งนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีน นำมาผสมกันพร้อมกับเครื่องเทศชนิดอื่นๆ จนได้เป็นสูตรของตัวเอง ให้รสเข้มข้นสุดๆ ไม่เหมือนที่อื่นแน่นอน โปะมาด้วยหมูชาชูและเนื้อไก่อีก 5 ชิ้นใหญ่ๆ เจ้าของบอกกับเราว่า ดูแล้วลูกค้าชาวไทยจะชอบชามนี้เป็นพิเศษ เพราะเห็นสั่งกันบ่อยๆ

อ่านรีวิวร้าน  Fukuda Seimen ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/fukuda-seimen/INFO
Tel: 063-996-2710
Address: 883/1 ถ.สุขุมวิท (ร้านอยู่ริมถนนสุขุมวิท ระหว่าง ซ.สุขุมวิท 47 – 49)
Opening Hours: 11:00 น.-LATE
Holiday: วันพุธ
Facebook URL:  福田製麺 Ra-men Fukuda

 

13. Gyu-Kaku Japanese BBQ (กิวคาขุ)

ร้านปิ้งย่างที่มีสาขามากที่สุดในญี่ปุ่น และมีอีก 700 สาขาทั่วโลก ได้ขนเอาเนื้อนำเข้าจากหลายฟาร์มสุดพรีเมียมที่มีให้เลือกหลากชนิด หลายเกรด  ทั้งสด นุ่มลิ้น และแทบละลายในปาก มาเสิร์ฟถึงโต๊ะในเมืองไทยโดยไม่ต้องบินไปกินไกลถึงญี่ปุ่นแล้วที่ร้านแห่งนี้ ซึ่งในเมืองไทย มีให้เลือกไปลิ้มรสเนื้อนุ่มๆ ถึง 5 สาขา ที่รักษามาตรฐานความอร่อยเดียวกับญี่ปุ่น รับรองไม่ผิดหวัง

เนื้อที่เสิร์ฟในร้าน มีทั้งวากิว เนื้อมิซึจิ เนื้อท้องลาย (Harami) เนื้อซี่โครง (Karubi) เนื้อสันคอ (Rosu) ลิ้นวัว ฯลฯ หรือถ้าหากใครไม่รับประทานเนื้อ ก็ยังมีเนื้อชนิดอื่นให้เลือกสั่ง ไม่ว่าจะเป็นหมูหมักมิโซะรสหวาน สันคอหมูหมักซอสทาเระ เนื้อไก่หมักซอสโหระพา เนื้อปลาแซลมอน รวมถึงผักสด กรุบกรอบอีกมากมาย

Gyu Kaku

อ่านรีวิวร้าน  Gyu-Kaku Japanese BBQ ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/gyu-kaku-japanese-bbq/INFO
สาขา ทองหล่อ
Tel: 02-712-5061
Address: 115 ซ.สุขุมวิท 55
Opening Hours: จ.-ศ. 17:30-23:00 น., ส.-อา. และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 11:30-14:00 น., 17:30-24:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Gyu-Kaku Thailand

 

14. Ikkousha Ramen (อิคโคฉะ ราเมน)

เอาอกเอาใจคนรักราเมน กับอีกหนึ่งร้านราเมนย่านทองหล่อ Ikkousha Ramen ร้านราเมนชื่อดังอันดับ 1 จากเมืองฮากาตะ จังหวัดฟุกุโอกะ ที่ตอนนี้ขยายความอร่อยไปกว่า 40 สาขาทั่วประเทศ พร้อมให้ทุกคนได้อิ่มอร่อยกับสาขาแรกในประเทศไทยที่ J-Avenue ทองหล่อ กับราเมนสไตล์ฮากาตะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เส้นเหนียวนุ่ม น้ำซุปกระดูกหมูรสชาติเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมหมูชาชูชิ้นโตวางแผ่มาเต็มชาม

ขอบคุณภาพ http://bit.ly/2ElgFH9

IkkoushaIkkousha Tokusei Ramen (270 บาท) เมนูออริจินัล กับราเมนน้ำซุปกระดูกหมูเข้มข้นสูตรทางร้าน ถูกอกถูกใจกับหมูราเมนชิ้นโตวางแผ่มา 4 ใหญ่ๆ เสิร์ฟพร้อมไข่ยางมะตูม

Black Tokusei Ramen (220 บาท) ราเมนน้ำซุปสีดำที่ได้จากน้ำมันกระเทียมย่าง ที่ช่วยเน้นรสชาติของน้ำซุปให้โดดเด่นยิ่งขึ้น อีกหนึ่งเมนูแนะนำ หอมกลิ่นกระเทียมสุดๆ

อ่านรีวิวร้าน Ikkousha Ramen ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/ikkousha-ramen/INFO
Tel: 02-712-9487
Address: J-Avenue ทองหล่อ (ทองหล่อ 15)
Opening Hours: 11:00 น.-LATE
Holiday: X
Facebook URL: Ikkousha Thailand

 

15. Ito-Kacho (อิโต-คาโจ)

เรียบหรูในบรรยากาศ อร่อยเด็ดขาดกับเนื้อพรีเมี่ยม Black Wagyu คงต้องยกให้ร้าน Ito-Kacho ร้านอาหารสไตล์ Fine Yakiniku Dining จากเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กับสาขาในไทยที่ตั้งอยู่ในโครงการ Nihonmura Mall ซ.ทองหล่อ 13 กับความงดงามของลวดลายชั้นไขมัน ที่แทรกอยู่ในทุกอณูของเนื้อวัววากิวระดับพรีเมี่ยม ส่งตรงจากฟาร์มจังหวัดกุมมะ ประเทศญี่ปุ่น

หมดห่วงเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ ด้วยระบบดูดควันที่ผ่านการออกแบบมาอย่างดี

Ito-KachoMini Take-Set (1,400 บาท) รวมเนื้อ Black Wagyu และ US ยอดนิยม พร้อมคัดสรรส่วนที่ดีที่สุด

Toku-Jo Gyu Tongue (580 บาท : 120 g.) Toku-Jo Gyu Tongue หรือลิ้นวัวนั่นเอง เอาเข้าจริงเราควรแนะนำเป็นจานแรก เพราะคนญี่ปุ่นนิยมกินลิ้นวัวเป็นจานแรก ก่อนจะย่างเนื้อในจานอื่นๆ จานนี้เสิร์ฟคู่กับซอสเกลือสูตรของทางร้าน วิธีการคือค่อยๆ ย่างลิ้นวัวทีละด้าน บีบมะนาวพร้อมกับราดซอสเกลือลงบนลิ้นวัวเมื่อใกล้สุก ได้สัมผัสกรุบๆ เวลาเคี้ยว

อ่านรีวิวร้าน Ito-Kacho ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/ito-kacho/INFO
Tel: 02-185-3338
Address: ชั้น 1 Nihonmura Mall ซ.ทองหล่อ 13
Opening Hours: 17:00-24:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Itokacho Thailand

 

16. Nagiya (นากิยะ)

ร้าน Nagiya ตกแต่งด้วยบรรยากาศสนุกๆ ของแสงสีเสียงตอนกลางคืนสไตล์งานวัดญี่ปุ่น ทำให้แอบคิดไปได้ว่ากำลังนั่งกินอาหารปิ้งย่างอยู่ในเทศกาลอะไรสักอย่างในประเทศญี่ปุ่นจริงๆ พนักงานจะส่งเสียงดังต้อนรับตั้งแต่ลูกค้าเดินเข้าร้าน คอยบริการด้วยความกระตือรือร้น จนผู้ที่มาเยือนเหมือนได้รับพลังงานให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยหลังจากทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน ที่นี่จึงเหมาะสำหรับการกินดื่มหลังเลิกงานเป็นที่สุด  ส่วนเมนูเด่นของที่นี่คืออาหารปิ้งย่างที่มีให้เลือกจำนวนมาก จนถ้าอยากลองชิมให้ครบทุกเมนูคงต้องมาติดต่อกันทุกวันเป็นเวลาหลายสัปดาห์ โดยเฉพาะเมนูปลาฮอกเกะและปูที่ผ่านการย่างหอมกรุ่นหน้าตาน่ากิน หรือจะเป็นเมนูหม้อไฟก็มีให้เลือกมากถึง 17 แบบ!

Shima Hokke Yaki (240 บาท) ปลาฮอกเกะจากฮอกไกโด ย่างเกลือบนเตาถ่านกลิ่นหอมน่ากิน บีบเลมอนลงไปนิดหน่อยก็ช่วยเพิ่มรสชาติได้อย่างดี

NagiyaKimuchi Motsu Nabe (800 บาท) หม้อไฟซุปมิโซะ เสิร์ฟหม้อใหญ่หน้าตาน่ากินด้วยการสุมกุ้ยช่ายตั้งเป็นแคมป์ ล้อมรอบด้วยหมูบดไก่ เนื้อหมู กะหล่ำปลี และผักโกโบ

Grilled Crab Butter in The Shell of Crab (190 บาท) เนื้อปูและมันปูซูไวในกระดองปู โรยด้วยไข่แดงของไข่นกกระทา เสิร์ฟพร้อมเตาเล็กๆ ให้ย่างด้วยตัวเองGokai Nokke Sushi (490 บาท) ซูชิที่โปะหน้าด้วยอาหารทะเลเลิศรส ด้านในคือข้าวห่อสาหร่ายแตงกวา ด้านบนประกอบด้วยอูนิ อิคุระ เนื้อมากุโร่บด เนื้อปูซูไว และก้ามปูซูไว

อ่านรีวิวร้าน Nagiya  ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/nagiya/INFO
สาขา ทองหล่อ 13
Tel: 02-185-2363
Address: ซ.ทองหล่อ 13
Opening Hours: 17:00-24:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Nagiya Thailand

INFO
สาขา ทองหล่อ 14
Tel: 02-392-1690
Address: ซ.ทองหล่อ 14
Opening Hours: จ.-ส.17:00-Late., อา.17:00-24:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Nagiya Thailand

 

17. Taishoken Ramen (ไทโชเคน)

อีกหนึ่งร้านราเมนที่สรรค์สร้างโดยฝีมือของเทพเจ้าราเมน Yamagishi Kazuo หรือที่ชาวญี่ปุ่นรู้จักกันดีในนาม The God of Ramen ผู้ปูรากฐานให้วงการราเมนขยายไปทั่วญี่ปุ่น และมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย จนภายหลังพากันไปเปิดร้านราเมนเป็นของตนเอง และโด่งดังกันไปหลายๆ ร้าน แถมยังเป็นผู้คิดค้น “สึเคเมน” อีกด้วย (Taishoken คือหนึ่งในนั้น)

เชฟชาวญี่ปุ่นประจำร้าน หนึ่งในลูกศิษย์ของเทพเจ้าราเมน

Tsukemen (260 บาท) น้ำซุปสีเข้มจากการเคี่ยวกระดูกหมูและปลาทะเลนานเกือบ 2 วัน ให้รสชาติเข้มข้นสุดๆ หอมกลิ่นปลาแห้งโชยมาอ่อนๆ จับคู่กับเส้นราเมนขนาดใหญ่แบบเหลี่ยม นุ่มเหนียวเคี้ยวสู้ฟัน แถมหมูชาชูก็หอมเอามากๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปดาชิ เพื่อใครรู้สึกเข้มข้นเกินไป ก็สามารถเทผสมให้รสชาติเจือจางลงได้

Shoyu Ramen (190 บาท) กลมกล่อมด้วยน้ำซุปกระดูกหมูสไตล์ฮากาตะและรสชาติอ่อนๆ จากซอสโชยุ ชามนี้ซดคล่องคอมากๆ

อ่านรีวิวร้าน Taishoken Ramen  ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/taishoken-ramen/INFO
Tel: 02-010-1557
Address: ชั้น 1 Fifty Fifth Thonglor ซ.ทองหล่อ 2 (สุขุมวิท 55) ถ.สุขุมวิท
Opening Hours: 11:00-22:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Taishoken Ramen

 

18. Tenri Stamina Ramen (เทนริ ราเมน)

เดินทางมาที่ซอยทองหล่อกับสาขาแรกในประเทศไทย กับสุดยอดร้านราเมนท้องถิ่นที่ส่งเข้าประกวดโดยเมืองเทนริ จ.นารา พร้อมความโดดเด่นกลมกล่อมของน้ำซุปที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จากจุดเริ่มต้นด้วยร้านราเมนแผงลอยเล็กๆ ในเมืองเทนริ สู่ 25 สาขาทั่วโลกในปัจจุบัน คงการันตีความอร่อยได้เป็นอย่างดี!

Spicy Yasai Ramen (240 บาท)  ราเมนรสเผ็ด (นิดหน่อย) หอมกลมกล่อมด้วยน้ำซุปสูตรลับจากเทนริ ที่ให้รสชาติเฉพาะตัว ออกรสเค็มนิดๆ ท็อปมาด้วยหมูชาชูและไข่ต้มยางมะตูมที่เนียนนุ่มมากๆ

Stamina Ramen (Size M 190 บาท) ราเมนจอมพลังซิกเนเจอร์ประจำร้าน กับน้ำซุปรสชาติแปลกแต่มีเอกลักษณ์ที่ได้จากการเคี่ยวกระดูกหมู และส่วนผสมอื่นๆ อย่างผักกาดขาวที่จะนำไปผัดในกระทะเพื่อให้มีความหอมมากยิ่งขึ้น กระเทียม กุยช่าย บวกซอสสูตรลับของทางร้านที่ให้รสเผ็ดนิดๆ แม้หน้าตาอาจจะดูเรียบๆ เทียบกับชามที่มีหมูชาชูชิ้นใหญ่ไม่ได้ แต่ถ้าเรื่องรสชาติ เราว่าไม่แพ้ใครเหมือนกันอร่อยแถมได้สุขภาพ ต้องหาเวลามาลองกันเอง

อ่านรีวิวร้าน Tenri Stamina Ramen  ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/tenri-stamina-ramen/INFO
Tel: 02-392-1276
Address: 56/8 ซ.สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) ถ.สุขุมวิท (ใกล้ BTS ทองหล่อ)
Opening Hours: จ.-ศ. 11:00-15:00 น, 17:00-23:00 น.
ส.-อา. 11:00-23:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Tenri Sutamina Ramen Bangkok

 

19. Ainu Bar (ไอนุ บาร์)

ร้านนี้เรียกได้ว่าเป็นแหล่งแฮงค์เอาท์ยอดฮิตของชาวทองหล่อเลยก็ว่าได้ ใครผ่านไปผ่านมาก็คงต้องสะดุดตากับสัญลักษณ์รูปหมีและนกฮูกที่โดดเด่นอยู่หน้าร้าน รวมถึงภาพผู้คนแน่นที่ขนัดเกือบทุกคืน สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านบรรยากาศดีๆ เพลงเพราะๆ และอาหารอร่อย เพื่อมาพบปะสังสรรค์หรือนั่งชิลล์ยามค่ำผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน ร้านนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์เลยล่ะ

ตั้งแต่บรรยากาศในร้านที่มีการตกแต่งแบบโมเดิร์นแฝงกลิ่นอายความเป็นอิซากายะแบบญี่ปุ่น ในคอนเซ็ปต์โรงนาของชาว Ainu  ชนเผ่าโบราณของฮอกไกโด ซึ่งถือเป็นคอนเซ็ปต์หลักๆ ของร้าน และที่สำคัญภายในร้านค่อนข้างกว้างขวาง มีที่นั่งให้เลือกหลากหลาย รวมถึงยังมีห้องส่วนตัวที่มีขนาดใหญ่ถึงขั้นสามารถจัดปาร์ตี้ หรือมีตติ้งใหญ่ๆ ได้เลย

Salmon Lava Roll (380 บาท) เมนูซูชิแซลมอนแบบโรล ประกอบไปด้วย แซลมอนสดๆ ชิ้นโต ห่อกับข้าวปั้นนุ่มนิ่ม รอบๆ โรยด้วยเทมปุระ ราดซอสสีชมพูสูตรพิเศษของทางร้านที่มีรสหวานนิดๆ กลมกล่อมกำลังดี

Hokkaido Scallop Mini Don (260 บาท)

อ่านรีวิวร้าน Ainu Bar ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/ainu-bar/INFO
Tel: 092 583 2552
Address: 121 ซ.สุขุมวิท 55 ถ.สุขุมวิท
Opening Hours: 17.30-LATE
Holiday: X
Facebook URL: AINU Bar

 

20. Kakigoya (คาคิโกย่า)

Kakigoya ทะเลญี่ปุ่นใจกลางทองหล่อ เรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารที่หยิบยกเอาบรรยากาศของความเป็นตลาดปลา หมู่บ้านชาวประมง และท้องทะเลญี่ปุ่น มาไว้ใจกลางทองหล่อได้อย่างยอดเยี่ยม สำหรับร้าน Kakigoya ร้านอาหารซีฟู้ดสไตล์ปิ้งย่าง ที่กว่า 80% ของวัตถุดิบ บินตรงมาจากทะเลญี่ปุ่นกันแบบสดๆ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง โดยเฉพาะบรรดาหอยต่างๆ ที่ยกขบวนกันมาทั้งหอยนางรมตัวโตๆ หอยเชลล์ หอยตลับ หอยปีกนก หอยงวงช้าง หอยเป๋าฮื้อ และอีกหลากหลายชนิด สับเปลี่ยนหมุนเวียนตามแต่ฤดูกาล ให้ชาวไทยได้ลิ้มลอง เปิดประสบการณ์ความอร่อยในระดับพรีเมี่ยม

เซตปิ้งย่าง Hamayaki Mori (1,900++ บาท)  เมนูปิ้งย่างบนเตาถ่านแบบญี่ปุ่น จะปิ้งเองหรือให้ทางร้านบริการให้ก็ได้ ประกอบไปด้วย หอยสังข์ (Sazae) หอยเชลล์ (Hotate) หอยเป๋าฮื้อ (Awabi) หอยตลับ (Hamaguri) หอยนางรม (จากเมืองต่างๆ หมุนเวียนตามฤดูกาล) พร้อมด้วยกุ้งทะเลตัวโต เคล็ดลับอยู่ที่การพรมน้ำต้มปลาแห้งในขณะย่าง เพื่อเพิ่มรสชาติ

อ่านรีวิวร้าน Kakigoya ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/kakigoya/INFO
Tel: 02-713-9580
Address: ปากซอยทองหล่อ 11 (สุขุมวิท 55)
Opening Hours: 16:00 น.-LATE
Holiday: X
Facebook URL: 勝浦水産・かき小屋 / Kakigoya, Oyster Bar