เมื่อเราเอาเงินที่ซื้อใหญ่โฟพิเศษเพิ่มลูกชิ้นกุ้งกินได้ 4 ชาม
ไปซื้อเบอร์เกอร์ที่เขาว่าอร่อยที่สุดในญี่ปุ่น !

จำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่ซื้อเบอร์เกอร์ด้วยเงินของตัวเองคือเมื่อไหร่ รู้แต่ว่าน่าจะนานโข

ไม่ใช่ไม่ชอบเบอร์เกอร์ แต่สำหรับเราการเอาตังค์จำนวนนี้ไปจ่ายค่าเบอร์เกอร์ชิ้นนึง สู้เอาไปกินใหญ่โฟพิเศษเพิ่มลูกชิ้นกุ้งกินดีกว่า พอคิดแบบนี้ก็เลยไม่เคยได้ซื้อเบอร์เกอร์กินเองสักที

ลองมานั่งนึกๆ ดู เพิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยได้กินฟาสต์ฟู้ดแฟรนไชส์แบบอเมริกันสไตล์เท่าไหร่ ไม่ว่าจะเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ หรือไก่ทอดลุงเคน รวมถึงสองแบรนด์พิซซ่ามหาชนของคนไทยนั่นก็ด้วย ก็อย่างที่บอก ไม่ใช่ไม่ชอบหรือไม่อร่อย เรื่องสุขภาพก็ไม่เกี่ยว แค่เราชอบใหญ่โฟพิเศษเพิ่มลูกชิ้นกุ้งมากกว่าก็เท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ คำบอกเล่าของเพื่อนคิวชูที่ว่าซาเซโบะเป็นดินแดนแห่งเบอร์เกอร์ของญี่ปุ่นจึงไม่สามารถดึงดูดใจเราได้แม้แต่น้อย เราบอกเพื่อนแบบที่รู้สึก แทนที่จะเอาตังค์ไปซื้อเบอร์เกอร์ สู้เอาไปกินใหญ่โฟพิเศษเพิ่มลูกชิ้นกุ้งได้ตั้งหลายชาม ได้ยินอย่างนี้เพื่อนคิวชูคนเดิมจึงจำเป็นต้องเพิ่มประโยคขายของขึ้นมาอีกหน่อย เพราะอยากเปิดโลกทัศน์ให้เพื่อนต่างชาติ

เบอร์เกอร์ของซาเซโบะอร่อยที่สุดในญี่ปุ่น

โอเคยอม เราแพ้ประโยคฮาร์ดเซลแบบนี้อยู่แล้ว อยากรู้เหมือนกันว่าที่สุดของเบอร์เกอร์ญี่ปุ่นมันจะสักแค่ไหน

ด้วยเหตุนี้ เราจึงตัดสินใจบรรจุซาเซโบะเข้าไปอยู่ในลิสต์เมืองน่าแวะ เมื่อคราวที่ไปออกทริปเที่ยวรอบเกาะคิวชู เพื่อหวังจะกินเบอร์เกอร์ที่เพื่อนบอกว่าอร่อยที่สุดในญี่ปุ่น

ซาเซโบะ (Sasebo) เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของจังหวัดนางาซากิ (Nagasaki) ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองท่าที่มีบทบาทสำคัญในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายหลังสงครามสิ้นสุด กองทัพเรือสหรัฐฯ จึงได้ยกพลขึ้นบกมาตั้งฐานทัพที่เมืองท่าแห่งนี้แทนที่กองทัพเรือของญี่ปุ่น ตั้งแต่นั้น ซาเซโบะก็กลายเป็นเมืองท่าที่เต็มไปด้วยฝรั่งมังค่ามาอยู่อาศัย แน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่ได้มาอยู่แต่ตัวเปล่าๆ แต่ยังหยิบเอาวัฒนธรรมบางอย่างติดไม้ติดมือมาด้วย โดยเฉพาะวัฒนธรรมการกิน และหนึ่งในเมนูที่ถูกเผยแพร่โดยอเมริกันชนมายังซาเซโบะชนก็คือ “เบอร์เกอร์ (Burger)”

เบอร์เกอร์ในแบบอเมริกันสไตล์ เริ่มเข้ามาในซาเซโบะช่วงปี ค.ศ.1950 ภายหลังจากที่ญี่ปุ่นได้ทำความรู้จักและคุ้นเคยกับเบอร์เกอร์ของชาวอเมริกัน จึงเริ่มมีการประยุกต์การทำเบอร์เกอร์ให้กลมกลืนและลงตัวกับความเป็นญี่ปุ่นมากขึ้น ทั้งในแง่ของรสชาติและวิธีทำ

กลายเป็นเบอร์เกอร์โฮมเมดที่เน้นกระบวนการปรุงออกมาอย่างตั้งใจในทุกขั้นตอนการผลิต ทั้งการคัดสรรคุณภาพของวัตถุดิบ การใส่ใจในการอบขนมปังให้นุ่มหอม การย่างชิ้นเนื้อร้อนๆ อย่างพิถีพิถัน สอดไส้ด้วยความกรุบกรอบของผักสดนานา เน้นทำสดใหม่แบบชิ้นต่อชิ้น กลายเป็นเบอร์เกอร์ในแบบเฉพาะของชาวซาเซโบะที่ว่ากันว่าอร่อยที่สุดในญี่ปุ่น

ร้านเบอร์เกอร์ที่เราแวะไปชื่อ ‘ล็อกคิต (Logkit)’ เบอร์เกอร์ที่มาพร้อมกับกลิ่นอายแบบอเมริกันจ๋า ทั้งบรรยากาศร้านและตัวเบอร์เกอร์ ส่วนลายเซ็นต์เด่นๆ ของร้าน คือเบอร์เกอร์เนื้อชั้นดีที่ย่างกันสดๆ แบบชิ้นต่อชิ้น แถมยังมีไซส์ให้เลือกหลากหลาย แบบชิ้นเดียวกินได้ทีเดียว 3 มื้อก็มี แล้วแต่ว่าพุงใครจะใหญ่กว่ากัน

ที่เลือกร้าน ‘ล็อกคิต’ เพราะหนึ่งอยู่ใกล้สถานี สองเป็นร้านเบอร์เกอร์ที่ถูกแนะนำอยู่ในแผ่นพับแจกฟรีของเมืองที่เราเพิ่งจะหยิบมาเปิดดูตอนลงจากรถไฟ ด้านในแผ่นพับมีลายแทงขุมทรัพย์เบอร์เกอร์ร้านเด็ดของเมืองอยู่ในนั้นเพียบ นอกจากแผ่นพับแจกฟรี ยังมีแผนที่เบอร์เกอร์ร้านแนะนำที่ต้องไปติดเป็นโปสเตอร์ตามที่ต่างๆ อีกมากมาย เดินไปทางไหนก็เจอโฆษณาเชื้อเชิญให้กินเบอร์เกอร์เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด

ออกตัวแรงตั้งแต่หน้าประตูบ้านว่ามาถึงเมืองเบอร์เกอร์แห่งญี่ปุ่นแล้วนะพวก มาแล้วไม่ลองสักชิ้นให้รู้ไป เราเลือกเบอร์เกอร์เนื้อขนาดกลางๆ ราคาของมันสามารถกินใหญ่โฟพิเศษเพิ่มลูกชิ้นกุ้งได้ตั้ง 4 ชาม

เบอร์เกอร์เนื้อของ ‘ล็อกคิต’ ชิ้นใหญ่เต็มมือ ขนมปังอบนุ่มหอม เบคอนย่างกลิ่นหอมฉุย ชอบเนื้อสัมผัสกรุบๆ บางส่วนที่ย่างติดไหม้นิดๆ อร่อยดี ส่วนไข่ทอดก็ฟองใหญ่ เสียดายไข่แดงไม่ค่อยเยิ้ม นี่ถ้าเรื่องมากได้จะสั่งไข่ดาวกรอบๆ ไข่แดงเยิ้มๆ แบบที่ชอบกินกับกะเพราหมูสับคงน่าจะถูกปากกว่านี้ ส่วนผักในเบอร์เกอร์ก็ตัดเลี่ยนได้ดี ทั้งสดและกรุบกรอบ มะเขือเทศก็หวานฉ่ำ มะเขือเทศญี่ปุ่นนี่อร่อยจริง เคยกินหลายครั้งแล้ว ไม่ต้องเอาไปปรุงเป็นอาหารหรอก กินสดๆ อร่อยแล้ว

หลังกลับมาจากทริปคิวชู เพื่อนคิวชูคนเดิมก็ถามเราทันที

“เป็นไง ดีกว่าใหญ่โฟพิเศษเพิ่มลูกชิ้นกุ้งไหม”

เราบอกเธอ “คราวหน้าถ้าได้ไป เราจะยอมอดใจไม่กินใหญ่โฟพิเศษเพิ่มลูกชิ้นกุ้งสัก 4 ชามก็แล้วกัน”

Info 
Shop: LOGKIT Sasebo Station
Location: 1-1 Yatakecho, Sasebo City, Nagasaki, 857-0047 (Map)
Openning Hours: 10.00 – 21.30 น.
Website: http://www.logkit.jp/