ไม่เหลืออะไรเลย แหลกสลายลงไปกับตา…
เทศกาล (พัง) น้ำแข็งแห่งซัปโปโร
.
หากพูดถึงเทศกาลน้ำแข็งที่ขึ้นชื่อในญี่ปุ่น เชื่อว่าคงไม่มีงานไหนที่จะโด่งดังไปกว่า “Sapporo Yuki Matsuri” หรือ “เทศกาลหิมะแห่งเมืองซัปโปโร” ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งถือเป็นช่วงที่หนาวเย็นที่สุดก่อนที่อากาศจะเริ่มอุ่นขึ้นหลังจากนี้ นี่คือเทศกาลน้ำแข็งที่เก่าแก่ที่สุดบนเกาะฮอกไกโดซึ่งเริ่มต้นมาจากงานแกะสลักน้ำแข็งชิ้นเล็กๆ แค่เพียง 6 ชิ้น โดยฝีมือของเด็กมัธยมในซัปโปโรในช่วงปี 1950 ก่อนที่จะเพิ่มสเกลความใหญ่ของงานมาเรื่อยๆ จวบจนถึงปัจจุบัน งานแกะสลักน้ำแข็งเล็กๆ ของเด็กมัธยมในวันนั้น ก็ได้กลายมาเป็นงานเทศกาลน้ำแข็งที่ยิ่งใหญ่ระดับชาติไปเรียบร้อยแล้ว

 

ที่มาภาพ : https://goo.gl/2Bj5Ks

 

สำหรับไฮไลต์ของงานเทศกาลนี้ คือการจัดแสดงประติมากรรมน้ำแข็งแกะสลักโดยช่างฝีมือที่ไม่ใช่แค่ชาวญี่ปุ่นเท่านั้น หากแต่ยังมีช่างแกะสลักน้ำแข็งมืออาชีพจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางมาร่วมแสดงฝีมือในงานเทศกาลนี้ด้วย
เช่นกัน ไทยเราเองก็ไม่พลาดที่จะส่งช่างแกะสลักน้ำแข็งมาร่วมโชว์ฝีไม้ลายมือในงานนี้มาตั้งแต่ปี 1991 แล้ว ที่สำคัญช่างแกะสลักของไทยเรายังคว้าแชมป์จากงานนี้มาได้ถึง 5 ครั้งแล้วด้วยนะ (สุดยอดไหมเล่า ขนาดบ้านเมืองเราไม่มีหิมะนะนี่)

สำหรับจำนวนชิ้นงานแกะสลักน้ำแข็งที่เราจะได้ชมกันในงานนี้ ในแต่ละปีก็จะมีให้ชมกันเป็นร้อยๆ ชิ้น อย่างปี 2017 ที่ผ่านมาก็มีงานแกะสลักน้ำแข็งให้ชมกันมากถึงกว่า 250 ชิ้น ซึ่งกว่าที่จะได้มาซึ่งชิ้นงานประติมากรรมน้ำแข็งที่สวยงามและอลังการเหล่านั้นก็ล้วนแล้วแต่ต้องใช้เวลาในการสร้างสรรค์ผลงานไม่น้อย

นั่นคือหน้างานของเทศกาลหิมะแห่งเมืองซัปโปโรที่หลายคนใฝ่ฝันว่าจะได้มาเห็นด้วยตาสักครั้ง ทว่าอีกสิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้ก็คือ ช่วงเสร็จสิ้นเทศกาลก็ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ได้รับความสนใจไม่แพ้น้ำแข็งที่หน้างานเช่นกัน

เรากำลังหมายถึงช่วงเวลาที่จะต้องทุบทำลายประติกรรมน้ำแข็งเหล่านั้นทิ้ง..


ถามว่าทำไมต้องทำลาย น้ำแข็งก็ยังไม่ละลาย อากาศก็ยังเย็นขนาดนั้นอยู่แท้ๆ คำตอบนั้นแสนง่าย ก็เพื่อความปลอดภัยของชาวเมืองและนักท่องเที่ยวนั่นแหละ เพราะประติมากรรมน้ำแข็งเหล่านั้นอาจจะพังถล่มลงมาได้ทุกเมื่อหากปล่อยให้มันละลายไปเองตอนที่อากาศอุ่นขึ้น ยิ่งสถานที่จัดงานน้ำแข็งเป็นสวนสาธารณะโอโดริที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโรด้วยแล้ว ยิ่งต้องรีบเคลียร์ออกไปให้เร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัย อันเป็นที่มาของการทุบทำลายชิ้นงานน้ำแข็งดังกล่าว ซึ่งกระบวนการทุบทำลายนั้นก็ต้องทำอย่างเป็นระบบระเบียบ ทั้งยังมีการจำกัดบริเวณเพื่อความปลอดภัยในระหว่างที่กำลังดำเนินการนั้นด้วยขณะที่ผู้ชมก็สามารถยืนชมอยู่ที่บริเวณรอบนอกได้

 

ที่มาภาพ : https://goo.gl/X4q4dv


ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ในช่วงเทศกาลหิมะของซัปโปโร ซึ่งทางบริษัททัวร์ญี่ปุ่นหลายแห่งก็ได้หยิบเอาวันที่จะทุบทำลายน้ำแข็งนี้ มาบรรจุเอาไว้ในโปรแกรมทัวร์ฮอกไกโดในช่วงหน้าหนาวด้วย ซึ่งผลตอบรับก็ถือว่าได้รับความสนใจจากลูกทัวร์เกินคาด (เข้าใจคิดเนอะ)

 

ที่มาภาพ : http://www.a19.jp/blog/?p=3042
ที่มาภาพ : https://goo.gl/X4q4dv


สำหรับกำหนดการทำลายล้างประติมากรรมน้ำแข็งจะมีขึ้นในเช้าวันถัดมาหลังจากที่งานเทศกาลน้ำแข็งสิ้นสุดซึ่งในช่วงที่มีการทุบทำลายประติมากรรมน้ำแข็งดังกล่าวจะมีนักท่องเที่ยวทั้งญี่ปุ่นและเทศมากมายมาเฝ้ารอชมกันตลอดทั้งวัน พร้อมๆ กับการบันทึกภาพประติมากรรมน้ำแข็งอันแสนวิจิตรที่กำลังพังครืนเหล่านั้นด้วยความเสียดาย ทว่าในขณะเดียวกันมันก็สะท้อนให้เห็นถึงสัจธรรมแห่งชีวิตไปด้วยพร้อมกัน

ว่าแล้วก็นึกถึงเพลงของพี่สุรสีห์ขึ้นมาทันใด

“ไม่เหลืออะไรเลย แหลกสลายลงไปกับตา…”

ทว่าอย่าได้กังวลไป เพราะสิ่งที่พังทลายไปต่อหน้าต่อตาในวันนี้ อีกไม่นานมันจะกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง…

 

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ