The Most Beautiful Temples in Japan

9 วัดในประเทศญี่ปุ่น สุด Unseen สวยจนต้องไปให้ได้ !

ใครอยากอิ่มบุญเชิญทางนี้! เพราะเราจะพาคุณออกเดินทางมาชื่นชมความงดงามที่น่าอัศจรรย์ของ วัดในประเทศญี่ปุ่น กัน ครับ งานนี้บอกได้เลยว่านอกจากจะเป็นการเสริมสิริมงคลให้กับตัวเองแล้ว ยังถือเป็นการท่องเที่ยวในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่จะทำให้คุณหลงรักการทำบุญที่วัดมากขึ้นอีกด้วย หากพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยครับว่า จะมีที่ไหนกันบ้าง ?

 

  • วัดอาซากุสะ (Asakusa Temple)

 

วัดในประเทศญี่ปุ่นกัน : วัดอาซากุสะ (Asakusa Temple)
Photo credit: https://goo.gl/9nFPKx

 

วัดอาซากุสะ (Asakusa Temple) มีอีกชื่อหนึ่งว่า วัดเซนโซจิ (Sensō-ji Temple) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีขนาดใหญ่ ถูกสร้างมาแล้วกว่า 500 ปี ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ ณ กรุงโตเกียว เป็น วัดในประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับความนิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยว โดยในแต่ละวันทั้งบริเวณภายในและภายนอกวัดจะคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดครับ

 

วัดอาซากุสะ (Asakusa Temple) มีอีกชื่อหนึ่งว่า วัดเซนโซจิ (Sensō-ji Temple)
Photo credit: https://goo.gl/3EiZ4R

 

บริเวณรอบๆ วัดล้อมด้วยถนนนาคามิเสะ (Nakamise Shopping Street) ทีเต็มไปด้วยร้านค้าขายของที่ระลึก ร้านอาหาร และร้านเสื้อผ้าสวยๆ ตั้งขายทอดยาวตลอดสองข้างทางเดินก่อนถึงวัดเป็นระยะทาง 200 เมตร ซึ่งความสวยงามของวัดแห่งนี้ก็คือประตูใหญ่ทางเข้าวัด และรูปแบบของสถาปัตยกรรมเจดีย์ 5 ชั้น ที่สะท้อนให้เห็นถึงบรรยากาศญี่ปุ่นสมัยโอเดะได้อย่างดีเยี่ยม

 

โคมไฟแดงยักษ์ จุดสำคัญของวัดอาซากุสะ
Photo credit: https://goo.gl/9nFPKx

 

และเมื่อเดินเข้าประตูใหญ่ (Hōzōmon) ที่ประดับด้วยโคมไฟแบบญี่ปุ่นแล้วนั้น คุณจะได้พบกับตัววิหารหลัก ซึ่งเป็นจุดแรกในการจุดธูปสักการะบูชา ไหว้พระ สิ่งศักดิ์สิทธิ์รูปปั้นสัมฤทธิ์ทอง ตัววิหารหลักนี้สามารถเดินขึ้นไปชื่นชมความงดงามของงานศิลปะและสถาปัตยกรรมที่อยู่ภายในได้ครับ

 

บ่อน้ำล้างมือของวัดอาซกุสะ มีไว้เพื่อให้ผู้ที่เข้าไปในวัดได้ชำระล้างร่างกายให้สะอาดก่อนที่จะทำการไหว้ขอพร
Photo credit: https://goo.gl/3EiZ4R

 

แต่สำหรับเจดีย์ 5 ชั้นแสนงดงามอลังการ มีความสูงถึง 48 เมตร จะไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมสถานที่บริเวณภายในเจดีย์ครับ

 

วัดเซนโซจิ (Sensō-ji Temple) มีเจดีย์ 5 ชั้นแสนงดงามอลังการ มีความสูงถึง 48 เมตร
Photo credit: https://goo.gl/n1Awhb

 

ภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่มีอายุเก่าแก่ถึง 1,400 ปี ซึ่งนับเป็นอีกจุดที่หนาแน่นไปด้วยผู้คนและนักท่องเที่ยวครับ หรือใครอยากจะเสี่ยงเซียมซีเพื่อขอคำทายดวงชะตะแม่นๆ จากเจ้าแม่กวนอิมก็ได้ครับ แต่ที่นี่มีความเชื่อกันว่าหากเสี่ยงเซียมซีแล้วได้ใบที่ดีก็ให้นำกลับบ้าน แต่ถ้าหากได้ใบที่ไม่ดีละก็ให้นำมาผูกมัดติดไว้กับเสาไม้ อันเป็นเหมือนการสะเดาะเคราะห์ไปในตัว

 

บรรยากาศภายในวัดเซนโซจิ (Sensō-ji Temple)
Photo credit: https://goo.gl/3EiZ4R

 

ข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา  06.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม:  ฟรี
การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดิน Ginza line มาลงที่สถานี Asakusa Station แล้วเดินอีกประมาณ 5 นาทีก็ถึงครับ
Website: http://www.senso-ji.jp/

 

  • วัดสึคิจิ ฮงกันจิ (Tsukiji Hongwan-ji Temple)

 

วัดในประเทศญี่ปุ่น : วัดสึคิจิ ฮงกันจิ (Tsukiji Hongwan-ji Temple)
Photo credit: https://goo.gl/e3Wr2i

 

ที่แห่งนี้ถ้าหากมองดูผ่านๆ อาจจะคิดว่าเป็น มัสยิด แต่ที่จริงไม่ใช่อย่างที่คุณคิดเลยครับ เพราะความจริงแล้วที่นี่คือ สถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนาโบราณสไตล์อินเดีย ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นครับ ตั้งอยู่ในย่านสึคิจิ (Tsukiji) ที่กรุงโตเกียว และยังเป็นเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธเจ้าอไมดา แห่งนิกายโจโด ชินชูครับ

 

บรรยากาศภายในวัดสึคิจิ ฮงกันจิ (Tsukiji Hongwan-ji Temple)
Photo credit: https://goo.gl/qZovUQ

 

สิ่งที่โดดเด่นของที่นี่ก็คงจะเป็นตัวอาคารภายนอกที่สร้างจากหินโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 520 ปี กับบรรยากาศภายในวัดที่ออกแบบและตกแต่งมาได้สวยสดงดงามจริงๆ บริเวณผนัง กำแพง และเสาส่วนใหญ่ถูกฉาบด้วยปูน เคลือบด้วยสีทองอร่าม ถ้าหากใครอยากกราบไหว้และบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบรรยากาศที่เงียบสงบ วัดสึคิจิ ฮงกันจิแห่งนี้ตอบโจทย์คุณอย่างแน่นอนครับ

 

บรรยากาศภายในของ Tsukiji Hongwan-ji Temple
Photo credit: https://goo.gl/qZovUQ

 

ข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 06.00 – 17.30 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
การเดินทาง: สามารถนั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Tsukiji
Website: http://www.tsukijihongwanji.jp

 

  • วัดโฮเมียวจิ (Homyo – Ji Temple)

 

วัดในประเทศญี่ปุ่น : วัดโฮเมียวจิ (Homyo – Ji Temple)
Photo credit: https://goo.gl/gRLkso

 

ยังอยู่ที่กันที่โตเกียวครับ กับวัดที่มีชื่อว่า วัดโฮเมียวจิ วัดเก่าแก่แห่งประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 810 ครับ ถึงแม้ว่าวัดนี้เคยถูกผลกระทบจากการทิ้งระเบิดจากสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้ห้องโถงและตัววิหารหลักเกิดความเสียหายอย่างหนักก็จริง แต่หลังจากสงครามจบสิ้น ก็ได้รับการบูรณะฟื้นฟูความงดงามขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ทำให้ทัศนียภาพของวัดในปัจจุบันทั้งเงียบสงบและอากาศดี เหมาะแก่การมาท่องเที่ยวมากๆ ครับ

 

บรรยากาศภายในวัดโฮเมียวจิ
Photo credit: https://goo.gl/9tB2ga

 

และยิ่งในช่วงปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน ที่แห่งนี้จะเป็นจุดชมวิวยอดนิยมที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวแห่แหนเข้ามาชื่นชมความสวยงามของดอกซากุระที่เปล่งประกายสีชมพูไปทั่วทั้งวัดครับ นอกเหนือไปกว่านั้นยังมีร้านอาหารและร้านขนมที่เรียงรายคอยบริการอยู่สองฝั่งทางเดินอีกด้วย

 

วัดโฮเมียวจิแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของรูปปั้นเทพธิดาแห่งการคุ้มครองบุตร (Kishimojin) โดยมีความเชื่อกันว่าหากผู้ใดที่ได้มากราบไหว้แล้วนั้น เทพีองค์นี้จะช่วยส่งผลให้ลูกและบุตรหลานของคุณเลี้ยงง่าย
Photo credit: https://goo.gl/gRLkso

 

วัดโฮเมียวจิแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของรูปปั้นเทพธิดาแห่งการคุ้มครองบุตร (Kishimojin) โดยมีความเชื่อกันว่าหากผู้ใดที่ได้มากราบไหว้แล้วนั้น เทพีองค์นี้จะช่วยส่งผลให้ลูกและบุตรหลานของคุณเลี้ยงง่าย ไม่ดื้อซน อีกทั้งสำหรับผู้ที่มีบุตรยากหากอยากมีลูกแบบเร็ววันลองมาขอพรกันดูก็นะได้ครับ

และสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ระฆังใหญ่ที่สลักขีดเขียนไปด้วยลวดลายที่น่าสนใจอันเปรียบเหมือนสัญลักษณ์แห่งความโชคดี ความสำเร็จ และความรุ่งโรจน์ครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 07.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย Fukutoshin (F10) มาลงที่สถานี Zoshigaya Station ใช้เวลาเดิน 3 นาที
Website: http://www.homyoji.or.jp/

 

  • วัดซันจูซันเก็นโด (Sanjūsangen-dō Temple)

 

วัดในประเทศญี่ปุ่น : วัดซันจูซันเก็นโด (Sanjūsangen-dō Temple)
Photo credit: https://goo.gl/V12uoo

 

ลำดับถัดมาทางทิศตะวันออกของจ.เกียวโต ขอนำคุณมาเสริมสิริมงคลพร้อมชื่นชมความงดงามของวัดไม้โบราณกันที่ วัดซันจูซันเก็นโด (Sanjūsangen-dō Temple) ครับ แม้ว่าวัดแห่งนี้มองดูเผินๆ แล้วจะเป็นวัดเก่าก็จริง แต่ก็ได้รับการบูรณะมาโดยตลอด ทำให้รูปแบบโดยรวมของสถาปัตยกรรมแห่งนี้ยังคงความสวยงามแปลกตาตามสไตล์ศิลปะของญี่ปุ่นโบราณไว้อย่างแท้จริงเลยทีเดียวครับ นอกเหนือไปกว่านั้นยังจัดเป็นวัดไม้ที่มีความยาวที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย

 

บรรยากาศภายในวัดซันจูซันเก็นโด (Sanjūsangen-dō Temple)
Photo credit: https://goo.gl/ZVKPnS

 

และสิ่งที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่อยู่ภายในอาคารวัดครับ โดยความเด่นของวัดแห่งนี้อยู่ที่ รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมเคลือบด้วยทองคำบริสุทธิ์ที่เรียงรายกันอย่างสวยงามทั้งหมด 1,000 องค์  

 

วัดซันจูซันเก็นโด มีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมเคลือบด้วยทองคำบริสุทธิ์ที่เรียงรายกันอย่างสวยงามทั้งหมด 1,000 องค์
Photo credit: https://goo.gl/7RUP99

 

ประกอบกับรูปปั้นพระโพธิสัตว์อีกทั้งหมด 28 องค์ และรูปเทพอื่นๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งรูปปั้นทั้งหมดที่ประดับอยู่ในวัดนี้ถือเป็นสมบัติแห่งชาติของญี่ปุ่น บริเวณโดยรอบวัดจะเป็นลานกว้าง อีกทั้งมีสวนและต้นไม้นานพันธุ์ช่วยสร้างร่มเงาและความร่มรื่นให้แก่นักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาเปิด-ปิด:  เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.
ราคาเข้าชม: สำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ 600 เยน/ สำหรับเด็ก 300 – 400 เยน
การเดินทาง: สามารถนั่งรถไฟใต้ดิน Keihan มาลงที่สถานี Shichijo Station จากนั้นเดิน 4 นาทีก็ถึงครับ
Website: http://sanjusangendo.jp/

 

  • วัดคินคาคุจิ (Kinkakuji Temple)

 

วัดในประเทศญี่ปุ่น : วัดคินคาคุจิ (Kinkakuji Temple)
Photo credit: https://goo.gl/Vgpws9

 

ปราสาทสีทองอร่ามแสนตระการตาแห่งนี้ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเกียวโต ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 14 เดิมสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่พักของราชวงศ์โชกุนครับ แต่เมื่อครั้งที่โชกุนในเวลานั้นสิ้นพระชนม์ลง สถานที่แห่งนี้จึงได้เปลี่ยนมาเป็นวิหารของนิกายเซนแห่งพระพุทธศาสนาครับ  

 

วัดคินคาคุจิ ตั้งอยู่ท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ รายล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียวชอุ่มกับบ่อน้ำ Anmitaku Pond อันกว้างใหญ่
Photo credit: https://goo.gl/dKskQ1

 

และอย่างที่เห็นในภาพวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ รายล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียวชอุ่มกับบ่อน้ำ Anmitaku Pond อันกว้างใหญ่ สีของใบไม้จะเปลี่ยนไปเป็นสีต่างๆ ตามฤดูกาล จนทำให้ทัศนียภาพโดยรวมรอบตัวปราสาทสีทองแห่งนี้งดงามจนคุณต้องประทับใจแน่นอน

 

บรรยากาศภายในของวัดคินคาคุจิ (Kinkakuji Temple)
Photo credit: https://goo.gl/dKskQ1

 

ส่วนกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่จะต้องทำกันทุกคนก็คือ การกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในห้องโถง Fudo Hall ครับ และอีกจุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ บริเวณที่มีผู้คนมาโยนเหรียญเพื่อขอความโชคดีและความมั่งคั่งทางการเงินจากพระพุทธรูปนั่นเอง

 

บริเวณที่มีผู้คนมาโยนเหรียญเพื่อขอความโชคดีและความมั่งคั่งทางการเงินจากพระพุทธรูปในวัดคินคาคุจิ
Photo credit: https://goo.gl/xD7thP

 

ข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา  9.00 – 17.00 น.
ราคาเข้าชม: สำหรับผู้ใหญ่ คิดที่ 400 เยน/ สำหรับเด็กนักเรียน คิดที่ 300 เยน
การเดินทาง: สามารถนั่งรถบัสสายที่ 12  และสายที่ 59  มาลงที่สถานี Kinkakuji – mae ครับ  จากนั้นเดินประมาณ 5 นาทีก็จะถึงครับ
Website: http://www.shokoku-ji.jp/

 

  • วัดนันเซ็นจิ (Nanzenji Temple)

 

วัดในประเทศญี่ปุ่น : วัดนันเซ็นจิ (Nanzenji Temple)
Photo credit: https://goo.gl/FqF5tr

 

เป็นวัดใหญ่ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต ตั้งอยู่บนแนวเชิงเขาฮิกาชิยาม่า (Higashiyama) ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1291 ครับ วัดแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของขนาดพื้นที่ที่กว้างใหญ่ ประกอบกับความสวยงามทั้งตัววิหารและทัศนียภาพทางธรรมชาติ อีกทั้งยังมีอีกหลายสิ่ง อาทิ มีประตูหลักซันมง (Sanmon), วัดเทงจุอัน (Tenju-an), วัดคงจิอิน (Konji-in), สวนหินที่ตั้งอยู่ในอาคารหลักโฮโจ (Hojo) และสะพานลำเลียงน้ำที่สร้างด้วยหินอิฐแดง (Suido – Bashi) เป็นต้น ทำให้บริเวณภายในวัดมีความน่าสนใจ และเป็นที่นิยมมากทีเดียว

 

ประตูใหญ่ที่ตั้งสง่าอยู่ด้านหลังผู้คนนั้นมีชื่อเรียกว่า ประตูซันมง (Sanmon) ประตูนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตในสงครามกลางเมือง
Photo credit: http://voyageakyoto.fr/nanzen-ji/

 

และประตูใหญ่ที่ตั้งสง่าอยู่ด้านหลังผู้คนดังรูปภาพด้านบนนั้นมีชื่อเรียกว่า ประตูซันมง (Sanmon) ครับ ประตูนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตในสงครามกลางเมือง ในส่วนนี้เองนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชื่นชมพระพุทธรูปและภาพวาดต่าง ๆได้ที่ชั้นบนของอาคารครับ  ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าถ้าหากคุณได้มาวัดนันเซ็นจิในช่วงฤดูใบร่วง คุณจะเห็นได้ว่าบรรยากาศโดยรอบของวัดจะสวยงามมากๆ ครับ ใบไม้จะเปลี่ยนไปเป็นสีแดงสลับกับสีส้ม และสีเหลืองที่มองดูรวม ๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน   

 

บรรยากาศภายในวัดนันเซ็นจิ (Nanzenji Temple)
Photo credit: https://goo.gl/2zd7qw

 

หรือถ้าหากต้องการอยากจะชมประตูบานเลื่อนที่ประดับไปด้วยรูปภาพลวดลายสไตล์ญี่ปุ่นแบบแท้ๆ กับสวนหินสวยๆ ก็ให้ชมที่ตัวอารามหลักโฮโจครับ

 

สะพานลำเลียงน้ำที่สร้างด้วยหินอิฐแดง (Suido - Bashi)
สะพานลำเลียงน้ำที่สร้างด้วยหินอิฐแดง (Suido – Bashi) Photo credit: https://goo.gl/F2dWjS

 

ข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาเปิด-ปิด:  แบ่งออกได้เป็นดังนี้
Sanmon Gate Hojo ตั้งแต่เวลา  08.40 – 17.00 น.
Nanzenin Hojo        ตั้งแต่เวลา 08.40 – 17.00 น.
Tenju-an                   ตั้งแต่เวลา 09.00  – 17.00  น.
Konji-in                    ตั้งแต่เวลา 08.40 – 17.00  น.
 *ปิดทำการทุกวันที่ 28 – 31 ธันวาคมของทุกปีครับ
ค่าเข้าชม: เริ่มตั้งแต่ 300  – 500  เยน
การเดินทาง: สามารถนั่งรถไฟใต้ดินสาย Tozai  มาลงที่สถานี Keage Station ใช้เวลาเดินประมาณ 6 นาที
Website: http://www.nanzen.net/english/

  • วัดโทไดจิ (Todaiji Temple)

 

วัดในประเทศญี่ปุ่น : วัดโทไดจิ (Todaiji Temple)
Photo credit: https://goo.gl/B48nZp

 

วัดแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่า เป็นวัดที่มีประตูทางเข้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และตัววิหารหลักที่สร้างจากไม้ก็ยังได้รับการยกย่องจากองค์กร UNESCO ว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วยครับ ถือเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของเกียวโต ตั้งอยู่ที่เมืองนารา (Nara) งดงามตระการตาไปในทุกส่วนจริงๆ ตั้งแต่บริเวณภายนอกทางเดินเข้าวัด จนถึงบริเวณภายในเลยครับ

 

บรรยากาศภายในวัดโทไดจิ
Photo credit: https://goo.gl/Cjz7Qb

 

วัดโทไดจิ เป็นวัดเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี  ค.ศ.  752 ครับ  ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจก็คือ ในบริเวณวิหารไดบุทสึ เด็น ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระประธานหลวงพ่อไดบุทสึ (Daibutsu) ครับ ลักษณะองค์พระจะเป็นทองแดงสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ที่มีขนาดความสูงถึง 15 เมตร ซึ่งถือว่าใหญ่และสูงที่สุดในญี่ปุ่นเลยทีเดียว

 

บริเวณวิหารไดบุทสึ เด็น ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระประธานหลวงพ่อไดบุทสึ (Daibutsu)
Photo credit: https://goo.gl/B48nZp

 

ว่ากันว่าหากใครที่ได้กราบไหว้ สักการะบูชาหลวงพ่อไดบุทสึ ท่านจะช่วยปกปักรักษาคุ้มครองให้เราปราศจากมรสุมชีวิตครับ

 

เทพทวารบาลที่คอยพิทักษ์คุ้มครองประตูทางเข้าวิหารหลักของวัดโทไดจิ (Todaiji Temple)
Photo credit: https://goo.gl/cNxMs2

 

นอกจากนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานของเทพทวารบาลที่คอยพิทักษ์คุ้มครองประตูทางเข้าวิหารหลักครับ  

ข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาเปิด – ปิด: เปิดให้บริการทุกวัน แต่ในส่วนของเวลาจะแบ่งออกเป็นช่วง ๆ ดังนี้
เดือนพฤศจิกายน – เดือนกุมภาพันธ์  ตั้งแต่เวลา  08.00 – 16.30 น.
เดือนมีนาคม                                        ตั้งแต่เวลา 08.00 –  17.00 น
เดือนเมษายน – เดือนกันยายน          ตั้งแต่เวลา  07.30 – 17.30 น.
เดือนตุลาคม                                        ตั้งแต่เวลา  07.30 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม: 500  เยน
การเดินทาง: สามารถใช้บริการโดยสารรถบัสประจำทางมาลงที่สถานี Todaiji Daibutsuden  ครับ จากนั้นเดินอีกประมาณ 5 นาทีก็จะถึงครับ
Website:  http://www.todaiji.or.jp/english/

 

  • วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple)

 

วัดในประเทศญี่ปุ่น : วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple)
P้hoto credit: https://goo.gl/u8aT1X

 

วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple) ตั้งอยู่ในเขตซาซากุริ (Sasaguri) ที่จังหวัดฟุกุโอะกะ (Fukuoka) ครับ วัดแห่งนี้จัดได้ว่าเป็นพุทธสถานท่ามกลางธรรมชาติ ที่เต็มไปด้วยอากาศปลอดโปร่งบริสุทธิ์ ประกอบกับมีรูปปั้นที่สำคัญทางศาสนาอันน่าค้นหาอีกมากกว่า 500 องค์ อาทิ รูปปั้นโอคุโนะอิน (Okunoin) รูปปั้นยักษ์ฟุโดเมียว (Fudo Myo-o) ฯลฯ  

 

ในวัดนันโซอิน (Nanzoin Temple) มีรูปปั้นที่สำคัญทางศาสนาอันน่าค้นหาอีกมากกว่า 500 องค์ อาทิ รูปปั้นโอคุโนะอิน (Okunoin) รูปปั้นยักษ์ฟุโดเมียว (Fudo Myo-o)
Photo credit: https://goo.gl/ghHxPQ

 

ในช่วงวันหยุดวัดนันโซอินจะเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่เดินทางมาทำบุญกราบไหว้สักการะพระพุทธรูปที่ตั้งอยู่ตามข้างป่าและตามทางเดินครับ ซึ่งเฉลี่ยแล้วในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากว่า 1 ล้านคนเลยทีเดียว

 

บริเวณรอบๆ วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple)
Photo credit: https://goo.gl/PyRJJE

 

เอกลักษณ์ที่โดดเด่นมากๆ ของวัดนันโซอินก็คือ พระพุทธรูปนอนทองแดง “เนฮันโซ” ซึ่งจัดเป็น พระนอนที่มีขนาดใหญ่และยาวเป็นอันดับหนึ่งของโลกทีเดียวเชียวครับ บริเวณด้านหน้าองค์พระพระพุทธนอนก็จะเรียงรายไปด้วยรูปปั้นนักบวชเป็นขั้นบันไดอย่างสวยงาม

 

เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของวัดนันโซอินก็คือ พระพุทธรูปนอนทองแดง “เนฮันโซ” ซึ่งจัดเป็น พระนอนที่มีขนาดใหญ่และยาวเป็นอันดับหนึ่งของโลก
Photo credit: https://goo.gl/uCqMqE

 

และลวดลายอันงดงามน่าประทับใจที่สลักบนบริเวณฝ่าเท้าของพระนอนที่ท่านได้เห็นนี้ก็คือหลักคำสอนของพระพุทธเจ้านั่นเองครับ

 

บริเวณฝ่าเท้าของพระนอนที่วัดนันโซอิน คือ หลักคำสอนของพระพุทธเจ้า
Photo credit: https://goo.gl/ghHxPQ

 

ข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
การเดินทาง: สามารถใช้บริการรถไฟสายซาซากูริ ให้นั่งมาลงที่สถานี Nanzoin – mae Station จากนั้นใช้เวลาเดินอีกประมาณ 3 – 5 นาทีครับ
Website:http://www.nanzoin.com/

 

  • วัดนิตไทจิ (Nittaiji Temple)

 

วัดในประเทศญี่ปุ่น : วัดนิตไทจิ (Nittaiji Temple)
Photo credit: https://goo.gl/3qTm4c

 

และวัดลำดับสุดท้ายนี้ เราขอนำพาคุณมาที่ วัดนิตไทจิ ที่เมืองนาโกย่าครับ เดิมทีวัดนี้มีชื่อเรียกว่า วัดนิตเซนจิ ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกเลยในต้นศตวรรษที่ 19 ที่แห่งนี้ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธทุกนิกายในญี่ปุ่นครับ และยังเป็นเครื่องตอกย้ำสัญลักษณ์ความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับญี่ปุ่นที่แนบแน่นยาวนานมากว่า 130 ปีอีกด้วย

 

วัดนิตไทจิ (Nittaiji Temple)
Photo credit: https://goo.gl/3qTm4c

 

เป็นวัดที่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศนิยมไปกราบขอพรจากพระบรมสารีริกธาตุที่เสด็จองค์พ่อ ร. 5 ของประเทศไทยเรามอบพระราชทานให้เป็นของขวัญแก่รัฐบาลและประชาชนชาวญี่ปุ่นในขณะนั้นครับ

 

วัดนิตไทจิ : พระบรมสารีริกธาตุที่เสด็จองค์พ่อ ร. 5 ของประเทศไทยเรามอบพระราชทานให้เป็นของขวัญแก่รัฐบาลและประชาชนชาวญี่ปุ่น
Photo credit: https://goo.gl/ncuYmF

 

นับจากนั้นมาราชวงศ์กษัตริย์ไทยเราก็ยังทรงอุปถัมภ์วัดแห่งนี้มาโดยตลอดครับ เช่น ทรงโปรดเกล้าพระราชทานป้ายจารึกพระพุทธศากยมุณี บริเวณหน้าองค์พระประธานของวัดครับ อีกทั้งตู้ประไตรปิฎก และระฆังสลักชื่อพระพุทธศากยมุณี ครับ

 

ราชวงศ์กษัตริย์ไทยเราก็ยังทรงอุปถัมภ์วัดนิตไทจิ ทรงโปรดเกล้าพระราชทานระฆังสลักชื่อพระพุทธศากยมุณี
Photo credit: https://goo.gl/RH6Tud

 

และด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณทางวัดจึงได้สร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ของสมเด็จรัชกาลที่ 5 ไว้เป็นอนุสรณ์ครับ

 

ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณทางวัดนิตไทจิ (Nittaiji Temple) จึงได้สร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ของสมเด็จรัชกาลที่ 5 ไว้เป็นอนุสรณ์
Photo credit: https://goo.gl/ncuYmF

 

ข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 05.00 – 16.30 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
การเดินทาง: ให้ใช้บริการรถไฟสาย Higashima Line นั่งมาลงที่สถานี Kakuazan Station ครับ จากนั้นใช้เวลาเดินประมาณ  10 นาที ก็จะถึงที่หมายครับ
Website: http://www.nittaiji.jp/kakuouzan/index_en.html

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับ 9 วัดในประเทศญี่ปุ่น สุด Unseen ที่ผมได้ยกมาเขียนในครั้งนี้ ทุกคนที่ได้อ่านคงเห็นกันแล้วว่า แต่ละวัดนั้นมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าหากสรุปโดยรวมแล้วทั้ง 9 วัดนี้ ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เปี่ยมไปด้วยแรงศรัทธาของชาวบ้านที่อยู่คู่ประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่ครั้งอดีตตราบจนปัจจุบัน ซึ่งใครที่อยู่ญี่ปุ่นแล้วไม่ได้มาไหว้พระขอพรก็ต้องบอกเลยว่าพลาดมากๆ ครับ เพราะอย่างที่บอกไปงานนี้นอกจากคุณจะได้บุญแล้วนั้น เชื่อว่าได้รับความสุขกลับไปตามๆ กันแน่นอน

 

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ